ในโลกสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนจำนวนมากให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘ศาสนา’ หรือ ‘ลัทธิ’ ซึ่งหลัก ๆ ก็ประกอบไปด้วยศาสนาพุทธ คริสต์ หรืออิสลาม จะแตกต่างออกมาสักหน่อยก็คงจะเป็นลัทธิจำพวก วูดู หรือ โอมชิริเคียว ซึ่งจะออกไปในสายดาร์ก แต่ศาสนา Pastafarian และ Baconism ที่เราจะพูดถึงต่อไปนั้น เป็นลัทธิหรือศาสนาที่เชื่อในเรื่องของ “อาหาร” ในมุมมองที่ลึกซึ้งกว่าที่หลายคนคาดคิด MOVER ขอบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องหลอกเด็ก แต่มันมีอยู่จริงและแพร่หลายไปในหลายประเทศทั่วโลกแล้วด้วย!!
*** หมายเหตุ Mover ไม่ได้เจตนาลบลู่หรือดูหมิ่นศาสนาใด บทความนี้เป็นเพียงการเสนอข้อมูลในเชิงสารคดีเท่านั้น
CHAPTER I
Flying Spaghetti Monster
ตามความเชื่อของศาสนาพาสตาฟาเรี่ยน “ปีศาจสปาเก็ตตี้ลอยฟ้า” นั้นมีอิทธิฤทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงและแก้ใขสิ่งต่าง ๆ ให้ดูเก่าเกินกว่าที่มันเป็น และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเกิดของกฎฟิสิกส์ทั้งหมดที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ (รวมถึงที่จะค้นพบในอนาคตด้วย) ยังไม่รวมการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในเชิงวิทยาศาสตร์ทั้งหมดบนโลกนี้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพียงการล้อเล่นขำ ๆ ของท่านปีศาจสปาเก็ตตี้ลอยฟ้านั่นเอง
The Church of Flying Spaghetti Monster
แท้จริงแล้วศาสนาพาสตาฟาเรียน (Pastafarian) เป็นศาสนาเชิงล้อเลียนที่ก่อตั้งขึ้นโดยนาย บ็อบบี้ เฮนเดอร์สัน (Bobby Henderson) เนื่องจากเขาต้องการต่อต้านมติของคณะกรรมการการศึกษาในรัฐแคนซัส ที่บังคับให้โรงเรียนในสังกัดสอนทฤษฎีผู้สร้างอันชาญฉลาดควบคู่ไปกับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินในวิชาชีววิทยา ซึ่งหลังจากที่เขาได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลโดยมีใจความว่าเกี่ยวกับทฤษฎีการกำเนิดโลกตามแนวความคิดของเขา ที่เชื่อว่ามีพระเจ้ารูปร่างเหมือนเส้นสปาเก็ตตี้และมีลูกชิ้นสองอันอยู่เคียงข้าง เพื่อเป็นการสื่อเป็นนัย ๆ ว่าทฤษฎีของเขาก็ไม่ได้ต่างจากของดาร์วินสักเท่าไร่ ดังนั้นถ้าจะบังคับสอนทฤษฎีผู้สร้างอันชาญฉลาดก็ต้องสอนของเขาสิถึงจะเท่าเทียมกัน..
หลังจากที่จดหมายของเขาถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ก็ได้มีชาวเน็ตรวมถึงผู้ที่สนใจเข้าร่วมนับถือศาสนา Pastafarian เป็นจำนวนมาก นี่จึงถือเป็นจุดกำเนิดของ The Church of Flying Spaghetti Monster และบ็อบบี้ก็ถูกสถาปนาขึ้นเป็นผู้ประกาศพระวรสาร (Prophet) ประจำศาสนาของเขาเอง
Special Day
สำหรับชาวพาสตาฟาเรี่ยน ในทุก ๆ “วันศุกร์” นั้นพวกเขาจะถือว่าเป็นวันศักสิทธิ์ โดยผู้นับถือทุกคนต้องท่องบทสวดที่มีคำลงท้ายว่า ‘ราเมน’ แทนคำว่า ‘อาเมน’ ของศาสนาคริสต์นั่นเอง นอกจากนั้นอีกหนึ่งวันที่ถือว่าสำคัญมาก ๆ ก็คือ “Happy Holiday” หรือช่วงเวลาที่ใข้แทนเทศกาลต่าง ๆ เช่น คริสมาสต์ แต่จะไม่มีกำหนดวันที่แน่นอนเพราะชาวพาสตาฟาเรี่ยนไม่นิยมเรื่องความเชื่อและพิธีกรรมสักเท่าไหร่ นอกจากนั้นยังมีการฉลองที่เรียกว่า “พาสโอเวอร์ (Pastover)” เพื่อเป็นการเสียดสีพิธีปัสกา (Passover) และวัน “ราเม็งดัน (Ramendan)” ที่ออกเสียงคลัายคลึงกับวัน “เราะมะฎอน (Ramadan)” ในศาสนาอิสลาม
Praise Pastafarian
สำหรับศาสนาต่างๆย่อมมีการแสดงความเคารพผ่านพิธีกรรมหรือบทสวดแตกต่างกันไป สำหรับชาวพาสตาฟาเรี่ยนนั้นการแสดงความศรัทธาต่อความเชื่อของเขาก็คือการนำกระชอนหรือหม้อที่มีรู (อันที่ไว้ใช้แยกเส้นสปาเก็ตตี้ออกจากน้ำเดือด) มาครอบไว้บนศีรษะ เพื่อแสดงความนับถือที่เขามีต่ออาหารที่พวกเขาชื่นชอบ
Heaven & Hell
สำหรับสวรรค์ในศาสนาพาสตาฟาเรี่ยนนั้นมีลักษณะเป็นโรงเบียร์ขนาดใหญ่ มีภูเขาที่สามารถผลิตเครื่องดื่มได้สารพัดตามความต้องการของทุกคนบนนั้น และยังมีโรงระบำเปลื้องผ้าไว้ให้ดูกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย นับว่าเป็นสวรรค์ของใครหลาย ๆ คนอย่างแท้จริง ส่วนนรกของชาวพาสตาฟาเรี่ยนนั้นก็ไม่ได้ต่างกับสวรรค์สักเท่าไหร่ เพียงแค่เบียร์ที่นรกนั้นจืดกว่าบนสวรรค์ (อร่อยน้อยกว่านั่นเอง) และโรงระบำเปลื้องผ้าก็จะมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นมา
lesgrossesorchadeslesamplesthalameges
CHAPTER II
Baconism
“Bacon is our God. Because bacon is real”
Baconism หรือลัทธิบูชาเบค่อนนี้มีจุดกำเนิดเมื่อปี 2010 จากความต้องการที่จะเสียดสีผู้ที่เหยียดคนไม่มีศาสนา ภายใต้พื้นฐานความเชื่อที่ว่า “เบคอนคือพระเจ้าของพวกเรา เพราะเบคอนมีอยู่จริง” โดยต้องการชี้ให้สังคมเห็นว่าผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนไม่ดี พวกเขาแค่เห็นต่าง และเลือกความสุขใจจากรสอาหารจากเบคอนที่จับต้องได้จริง ส่วนใครจะเชื่อการมีอยู่จริงของพระเจ้าก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลเช่นกัน ไม่ได้จะมีเจตนาสร้างความขัดแย้งแต่อย่างใด
United Church of Bacon
โบสถ์ของลัทธิบูชาเบค่อนมีชื่อว่า United Church of Bacon ตั้งอยู่ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในทุกวันอาทิตย์ก็จะมีการสอนศาสนาดังกล่าวที่โบสถ์อีกด้วย โดยโบสถ์ดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวยาญจากหลายวงการไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ ปรัชญา และการศึกษา
Praise Bacon
พวกเขาเชื่อว่ากลิ่นของเบคอนนั้นหอมหวนเหมือนกับพรจากพระเจ้า และรับพรนั้นด้วยการทานเข้าไปอย่างอร่อย แต่ถ้าใครที่ไม่กินหมูหรือกินมังสวิรัติทางโบสถ์ก็มีข้อเสนอเป็น หมูเจที่ทำจากโปรตีนเกษตร หรือเบค่อนที่ทำจากไก่งวงแทนก็ได้ หรือถ้าไม่พร้อมจะกินจริง ๆ แค่สูดกลิ่นก็ถือว่าเป็นการแสดงความศรัทธาแล้ว
CHAPTER III
Pastafarian vs Baconism
หลายคนอาจจะสงสัยว่าลัทธิหรือศาสนาทั้งสองนี้มันต่างกันยังไงในเมื่อมีเหตุผลเพื่อความสนุกสนานล้อเลียนและเสียดสีเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของสังคมเหมือนกัน ตัวแทนจากทั้งสองความเชื่อนี้ก็ให้เหตุผลง่าย ๆ ว่า สำหรับ Baconism นั้นต้องการให้มีเส้นสปาเก็ตตี้ทับบนเบค่อนมากกว่า แต่ในมุมของ Pastafarian นั้นพวกเขาเชื่อว่าเบค่อนควรจะอยู่บนพิซซ่ามากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองลัทธินี้ก็อยู่กันอย่างสงบสุขและไม่เบียดเบียนใครเหมือนกับที่ทุกศาสนาสอนนั่นเอง
อ่านรายละเอียดและติดตามข่าวสารชาวพาสตาฟาเรี่ยนได้ที่ venganza
อ่านรายละเอียดและติดตามข่าวสารชาวเบค่อนนิสซึ่มได้ที่ unitedchurchofbacon
บทความนี้เรียบเรียงโดยทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com