เตรียมรับมือ! กองทัพเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนพร้อมเขย่าวงการ IT ปี 2019 นี้แน่นอน

ยิ่งเวลาเดินไปข้างหน้าเท่าไหร่ สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราก็ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ร่างกายของเรา ที่ก็เดินหน้าสู่วัยชรามากขึ้น ซึ่งฟัง ๆ ดูแล้วก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะน่ายินดีเท่าไรนัก แต่! ในโลกของไอทีกลับตรงกันข้าม เพราะเมื่อเวลาเดินไปข้างหน้า เทคโนโลยีก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มนุษย์โลกอย่างเรานั้นมีอุปกรณ์เข้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิตมากขึ้นตามไปด้วย

อุปกรณ์ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็น Smartphone ที่ตอนนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันกลายมาเป็นทุกอย่างของการใช้ชีวิตไปซะแล้ว ยิ่งถ้าวันไหนลืมไว้ที่บ้าน ชีวิตก็จะดูว่างเปล่า หงุดหงิดทันที เพราะโทรศัพท์มือถือหรือที่หลายคนเรียกกันว่า สมาร์ทโฟน นั้นมีการพัฒนาฟังก์ชั่นต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ในแต่ละปีเราจะได้เห็นนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้อัพเดตอยู่เสมอ

และในปี 2019 ที่กำลังจะมาถึงนี้ก็มีกองทัพสมาร์ทโฟนมากมายที่เตรียมเปิดตัวและยกระดับความล้ำหน้าไปอีกขั้นของเทคโนโลยี และพวกเราในฐานะ USER หรือผู้ใช้งานนั้น ก็ต้องเตรียมรับมือและพร้อมทำความรู้จักกับการมาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้เพื่อนำไปใช้อย่างถูกต้อง และเกิดประโยชน์กับตัวเรามากที่สุด ดังนั้นตอนนี้ Mover จะพาทุกคนไปดูกันว่าในอีกครึ่งปีที่จะถึงนี้ เราจะได้เห็นนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ ๆ อะไรบ้างบนสมาร์ทโฟน

– Notch Screen –

กลายเป็นกระแสติดต่อกันอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไวรัส สำหรับแนวทางการออกแบบสมาร์ทโฟนสไตล์ Notch Screen หรือที่เราได้ยินคนในวงการไอทีเรียกกันบ่อย ๆ ว่า “จอแหว่ง” ซึ่งมีที่มาจากความต้องการในการเพิ่มพื้นที่ของหน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ไม่ต้องการที่จะให้ตัวเครื่องเพิ่มขนาดตาม ดังนั้น Notch Screen จึงเป็นทางเลือกใหม่ของบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ที่ทำตามโจทย์การออกแบบที่ต้องการได้

โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตทั้งในส่วนของซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ผสานเข้าด้วยกัน ทำให้หน้าจอแสดงผลมีขนาดกว้างโดยที่ยังคงใช้ขนาดบอดี้เดิม ซึ่งเราสังเกตได้จากสเปกตัวเครื่องที่หลายรุ่นจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้วหน่อย ๆ แต่พอเราลองถือจับใช้งานจะรู้สึกเหมือนถือสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ที่คุ้นเคย นับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เราจะได้เห็นแบบเต็มที่บนสมาร์ทโฟนในปี 2019

– AI (Artificial Intelligence) –

เทคโนโลยีสมองกล หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นอีกสิ่งที่เราจะต้องเตรียมที่จะรับมือแบบเต็มรูปแบบบนสมาร์ทโฟนในปี 2019 ซึ่งจริง ๆ แล้วในหลายคนน่าจะได้เห็นหรือได้ลองใช้เทคโนโลยี AI บนสมาร์ทโฟนกันมาบ้างแล้ว เพราะบนสมาร์ทโฟน Android และ OS ทาง Google รวมถึงผู้ผลิตแบรนด์ต่าง ๆ ได้เริ่มที่จะนำ AI มาผสานการทำงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Android / OS บ้างแล้ว แถมเมื่อไม่กี่วันก่อน Google ยังได้ส่ง Google Assistant หนึ่งในเทคโนโลยี AI ของบริษัทมาให้ลองใช้งานกันไปแล้ว  ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากว่าในปี 2019 เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีด้าน AI เข้ามาแบบเต็มตัวบนสมาร์ทโฟน ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย แทบไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายเลย ไม่ว่าจะถ่ายรูป ทำงาน เล่นเกม และอื่น ๆ AI จะช่วยทำให้หมดทุกอย่าง

– AR (Augmented Reality) –

โดย AR เป็นเทคโนโลยีสำหรับการจำลองภาพ 3 มิติเสมือนจริงให้แสดงออกมาสู่โลกภายนอก เหมือนที่เราเคยเห็นลุงสตาร์คในหนัง Iron Man ใช้บ่อย ๆ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวงการแพทย์เพราะจะช่วยทำให้การศึกษาค้นคว้า งานวิจัย หรือแม้แต่การวินิจฉัยโรครักษาผู้ป่วยก็สามารถทำได้ดีขึ้น สำหรับ AR ในวงการไอทีนั้นก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีหลายแห่งเช่น Google, Apple หรือแม้แต่ Microsoft ให้ความสนใจและเริ่มลงมือพัฒนาแพลทฟอร์มของตนเองอย่างจริงจัง เพื่อนำเทคโนโลนี AR มาผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนเองที่มีอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในตอนนี้ก็คงจะเป็น Apple ที่ได้เริ่มนำ AR เข้ามาใช้งานบน iOS มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดตัว AR Kit 2 ที่เป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาในการนำไปต่อยอดพัฒนาแอปพลิเคชั่นของตนเองออกมา

– Dual / Triple Camera –

Expertreview.com

ในเมื่อมนุษย์เรายังต้องมีดวงตาสองข้างเพื่อมองสิ่งต่าง ๆ ให้ขัดเจน แล้วทำไมสมาร์ทโฟนจะมาพร้อมเลนส์สองดวงบ้างไม่ได้? ดังนั้นเพื่อให้การถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนมีประสิทธิภาพพัฒนาขึ้นจากเดิม การนำเทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปแบบ Dual Cam ที่ทาง HTC เคยนำมาใช้บนสมาร์ทโฟนของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนมาใช้ในรุ่นปัจจุบันจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด จนเกิดเป็นเทรนด์กล้องคู่ขึ้นมาอย่างแพร่หลาย ถ้าในปี 2019 สมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่ยังไม่ขยับมาเป็นกล้องแบบ Dual Cam ก็อาจจะเอาท์จากวงการสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ เพราะล่าสุดนั้นแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Huawei P20 ก็ได้นำเทรนด์ไปถึงระดับ Triple Cam กันแล้ว

Wireless and IoT

ถึงแม้การเชื่อมต่อแบบไร้สายจะเกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟนมานานแสนนานแล้ว แต่เทรนด์ของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุด ยั้งทำให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายในปัจจุบันบนสมาร์ทโฟนไปไกลถึงขั้นสามารถสั่งการสิ่งของต่าง ๆ รอบตัว ให้ทำงานได้เพียงแค่ใช้ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น

นอกจากนั้นเรายังจะเห็นได้จากการนำเทคโนโลยี FinTech ต่าง ๆ เข้ามาให้บริการมากขึ้นทั้ง AirPay, QR Pay หรือ NFC ที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นพัฒนาการด้านเทคโนโลยีไร้สายทั้งนั้น ดังนั้นในปี 2019 จึงไม่แปลกใจเลยว่าเราจะได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดู Smart มากขึ้นกว่าแต่ก่อนเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมทั้งสมาร์ทโฟนของเราจะกลายเป็นศูนย์กลางของจักรวาลมาร์เวล เอ้ย! จักรวาลไอที ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แถมตอนนี้ประเทศไทยกำลังผลักดันเรื่องของ Thailand 4.0 ด้วย ยิ่งทำให้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย รวมไปถึงเรื่องของ Internet of Thing จะยิ่งผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราแบบแยกจากกันไม่ได้เลยทีเดียว

Digitaltrend.com

– Biometrics –

การยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติหรือภาษาบ้าน ๆ ก็คือการยืนยันตัวตนด้วยอวัยวะบนร่างกายของเรานั้นเองเช่น ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่หลายคนคุ้นเคยกับการใช้ลายนิ้วมือที่ยากต่อการปลอมแปลง ลอกเลียนแบบของตัวเราเองมาใช้ในการยืนยันความเป็นเจ้าของเครื่องเพื่อเข้าใช้งานสมาร์ทโฟน หรือจะเป็นระบบสแกนม่านตาที่ใช้ม่านตา (Iris) ของแต่ละคนในการยืนยันตัวตน เพื่อเข้าใช้งานบริการหรือเข้าสู่ตัวเครื่อง ซึ่งเป็นผลพ่วงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ทำให้สิ่งที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก สามารถใช้งานได้จริงบนสมาร์ทโฟนแล้วเรียบร้อย

Phandroid.com

และในปี 2019 ระบบ Face Unlock หรือ 3D Face เป็นอีกเทคโนโลยีด้าน Biometrics ที่จะเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ในการยืนยันตัวตนบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเจ้าระบบนี้เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้การจดจำของระบบ AI ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนที่มักจะถูกใส่มาตรงบริเวณรอยแหว่งของหน้าจอ ให้ทำงานร่วมกัน เพื่อสแกนใบหน้าของเจ้าของเครื่องที่ลงทะเบียนไว้ โดยระบบนี้สามารถสแกนจุดสำคัญต่าง ๆ บนใบหน้าได้มากกว่า 2,000 จุด ทำให้มีความแม่นยำในการยืนยันตัวตนสูงเลยทีเดียว

ทั้งหมดนี้ก็เทคโนโลยีบน สมาร์ทโฟน ส่วนหนึ่ง ที่ Mover นำมาเกริ่นให้ทุกคนได้เตรียมตัวและเตรียมรับมือกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่หมุนไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าในปี 2019 ที่กำลังจะมาถึงนี้ทุกอย่างก็จะนิ่งต้องล้ำหน้าขึ้นไปอีก แต่ก็อยากจะฝากกันไว้ว่า เทคโนโลยีนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม ที่ถ้าหากเรานำไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะส่งผิดได้ทันที และทันใด ดังนั้นเราควรรู้จักและทำความเข้าใจให้ดีก่อน เพื่อไม่ให้ทั้งตัวเราและผู้คนรอบข้างเดือดร้อน


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com