อย่างที่เราทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จพระราชสมภพและทรงประทับอยู่ในต่างแดน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ วันนี้ Mover จึงขอพาทุกคนไปชม ๔ เมืองสำคัญในพระราชประวัติ ในหลวง ร.๙ พร้อมประมวลภาพสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ที่จะทำให้คุณอยากไปตามรอยพ่อในต่างแดน
Boston, Massachusetts
เริ่มต้นกันที่ Cambridge เมือง Boston รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองอันเป็นสถานที่ทรงพระประสูติกาลของพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (หรือพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดชในขณะนั้น) โดยวันพระบรมราชสมภพตรงกับวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2470 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ ปีเถาะ เวลา 8.45 น. ที่โรงพยาบาลเมานท์ ออเบอร์น (Mount Auburn) โดย ดร. ดับเบิลยู สจ๊วต วิทท์มอร์ (Dr. W. Stewart Whittmore) และคณะแพทย์ที่ได้ถวายการประสูติแด่หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธย เป็นสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี) หม่อมในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก)
อีกสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งในพระราชประวัติในหลวงร.๙ ก็คือมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่พระบรมราชชนกได้ทรงประทับศึกษาวิชาการแพทย์อยู่ในขณะนั้น โดยพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดชได้ประสูติก่อนพระบรมราชชนกจะสำเร็จการศึกษาได้ 1 ปี
และอีกหลาย ๆ มุมในบอสตัน
และจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับจัตุรัส King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square หรือ จัตุรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ใช้เวลาเดินจากโรงพยาบาล Mount Auburn ประมาณ 10 นาที อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นอนุสรณ์สถานถึงสถานที่ประสูติกาลของพระมหากษัตริย์ไทย และแสดงถึงมิตรไมตรีอันดีระหว่างประชาชนชาวไทยและสหรัฐอเมริกา โดยมีเนื้อความแปลในแผ่นจารึกว่า
จัตุรัส แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลอง และรำลึกถึงพระประสูติการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ของประเทศไทย ที่โรงพยาบาลเมาท์ ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ในขณะที่พระชนก เจ้าฟ้ามหิดล ทรงเป็นนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
จัตุรัสแห่งนี้ได้วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 8 เมษยน พ.ศ. 2533 โดยเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภารณ์ อัคราชกุมารี ธิดาองค์เล็ก ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนีนาถ แห่งประเทศไทย และเป็นเครื่องหมายรำลึกถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างประชากรเมืองเคมบริดจ์ และประชาชนชาวไทย
อนุสรณ์สถานแห่งนี้ ทำพิธีเปิดแผ่นป้ายในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2535 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าฟ้าหญิงสิรินทร อัคราชกุมารี ทรงทำหน้าที่แทนพระองค์ และประชาชนชาวไทย ในพิธีเปิดแผ่นป้ายจารึกแห่งนี้
Lausanne, Switzerland
หลังจากพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จกลับประเทศไทย และเมื่อพระชนมายุได้ 5 พรรษา เพื่อทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี กรุงเทพมหานคร ก็ทรงเสด็จไปศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียน Merriment (เมียร์มองต์) เมือง Lausanne (โลซานน์) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และในปี พ.ศ. 2478 ได้ทรงศึกษาต่อจนถึงระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยเมืองโลซานน์ ก่อนจะได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราช พระบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าพี่นางเธอในปี พ.ศ. 2481
ซึ่งที่เมืองโลซานน์ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบแห่งนี้ ก็เป็นที่ตั้งของพระตำหนักหลังแรกในสวิตเซอร์แลนด์ของครอบครัวเล็ก ๆ แห่งราชสกุลมหิดล ณ อพาร์ทเมนท์เลขที่ 16 ถนนทิสโซต์ (Apartment No.16, Rue de Tissot ป้าย Lausanne, Alpes) ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2477 และยังเป็นสถานที่ส่งพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ที่ทรงประทับ ณ วังสระปทุม ดังจะเห็นในรูปภาพโปสการ์ดที่เราอาจเคยผ่านตากันมาแล้ว
Pully, Switzerland
อีกเมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบที่ติดกับเมืองโลซานน์อย่างเมืองพุยยี่ (Pully) ก็มีความสำคัญในพระราชประวัติของทั้งรัชกาลที่ 8 และ 9 เพราะเป็นเมืองที่ตั้งของ “วิลล่าวัฒนา” (Villa Vadhana) พระตำหนักหลังใหม่ ที่ย้ายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลขึ้นครองราชย์ ขณะมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา เพื่อให้สมพระเกียรติ
Ollon, Switzerland
กิจกรรมที่เราต่างคุ้นตากันดีด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ขณะพระองค์ทรงเล่นกีฬาสกี หนึ่งในพระอัจฉริยภาพทางกีฬา โดยทรงฝึกเล่นสกีครั้งแรกที่ Montjoie บ้านพักของภรรยาเจ้าของโรงเรียนเมียร์มองต์ ณ Villars-sur-Ollon เมือง Ollon ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นภูเขาสูง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในค่ายพลานามัยที่เด็ก ๆ จะได้อยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ ใช้เวลาเล่นกีฬาฤดูหนาว และยังมีครูสอนหนังสือด้วย ซึ่งครูและแพทย์ก็ได้แนะนำสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอย่างมาก ว่าจะเป็นประโยชน์แก่สุขภาพร่างกายของเจ้านายทั้ง 2 พระองค์
และหลังจากเสด็จไปที่ Villas-sur-Ollon หลายปี ทรงเล่นสกีได้เก่งแล้ว จึงเปลี่ยนไปที่ ๆ ยากขึ้น ที่ Arosa เมืองภูเขาในรัฐ Grisons (กรีซองส์) ไกลจากเมืองโลซานน์มาก และเมือง Davos (ดาโวส์) เมืองตากอากาศฤดูหนาวขึ้นชื่อ ที่มีที่เล่นสกีสวย ๆ บนยอดเขาหลายที่ และยังเป็นสถานที่ทรงพระราชนิพนธ์เพลง “อาทิตย์อับแสง” อีกด้วย
ที่มา
- บทความ สถานที่พระประสูติกาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ( King Bhumibol Adulyadej Square ) จากเฟซบุ๊คเพจ รวมใจภักดิ์ รักสามัคคี ทำความดีถวายในหลวง
- บทความ Guide 19 : พระราชประวัติ พระประสูติกาล ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จาก http://oknation.nationtv.tv/
- กระทู้พันทิป [CR]Unseen Switzerland ตอน ตามรอยแผ่นดินวัยเยาว์ฉบับสมบูรณ์ เรียบเรียงจากหนังสือ “เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์” พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, หนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ ๙ และเจ้านายไทยในโลซานน์ และ บันทึกความทรงจำของครูส่วนพระองค์ในรัชการที่ ๙ รวบรวมโดย ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส โดย ลุงหมอขอพักร้อน
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com