Type to search

Advertorial Hang out & Travel

พาชิม Jamie’s Italian ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนในบรรยากาศสบายๆ กลางสยามดิสคัฟเวอรี่

Share

หากใครที่ใช้ชีวิตย่านสยามดิสคัฟเวอรี่อยู่บ่อย ๆ ก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับร้านอาหาร Jamie’s Italian (เจมีส์ อิตาเลียน) บริเวณชั้น G ของห้าง หลายคนอาจจะยังสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าอาหารของร้านนี้จะเป็นอย่างไร สไตล์แบบไหน รสชาติจะถูกปากหรือเปล่า วันนี้ MOVER จึงขอทำการพาชิมและรีวิวอาหารภายในร้าน รวมถึงแนะนำเมนูใหม่ที่เพิ่งเติมเข้ามา รับรองว่าแฟน ๆ อาหารสไตล์อิตาเลี่ยนไม่ผิดหวังแน่นอน

 Jamie’s Italian 

เราต้องขอเกริ่นคร่าว ๆ ว่าร้าน เจมีส์ อิตาเลียน นั้นแน่นอนว่าต้องเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนที่นำเสนอครบครันทั้งอาหารคาว หวาน รวมถึงเครื่องดื่มทั้งสไตล์ค็อกเทลและม็อกเทล ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เหมือนกับอยู่ที่บ้าน โดยใช้วัตถุดับทั้งหมดเป็นแบบออร์แกนิค ซึ่งต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ทำให้อาหารทุกงานที่ออกมานั้นมีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ และที่สำคัญทางร้านก็ได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาเมนูอยู่เสมอตามฤดูกาล เพื่อนำเสนออาหารที่ผลิตจากวัตถุดิบในท้องถิ่น และเป็นการแนะนำเมนูใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย

คุณ อเล็กซ์ บาร์แมน หัวหน้าเชฟ ร้านเจมีส์ อิตาเลียน สยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า

“แม้ว่าเราจะทำการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิม คือ คำมั่นสัญญาที่เราจะปรุงอาหารโดยใช้วัตถุดิบจากฟาร์มเปิด ใช้เนื้อจากฟาร์มที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีในระบบการผลิตเพื่อความยั่งยืน และส่วนผสมจากแหล่งผลิตที่มีจริยธรรม เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตและเกษตรกรไทยเพื่อนำเสนอผลิตผลจากสินค้าไทย และสานต่อเจตนารมย์นี้ในเมนูใหม่ของเรา”

ภายในร้านตกแต่งด้วยโคมไฟสีสบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนกับทานอาหารอยู่ที่บ้าน รวมถึงพนักงานทุกคนก็คอยให้ข้อมูลและบริการลูกค้าทุกคนอย่างละเอียดครบถ้วน เพราะทางร้านให้ความสำคัญกับเรื่องการบริการมาก พนักงานทุกคนจะต้องผ่านการทำเวิร์คช็อปเพื่อให้เข้าใจแนวคิดของแบรนด์ก่อนจะทำงานจริง โดยเมนูที่เราจะแนะนำกันในวันนี้มีพร้อมตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก เครื่องดื่ม รวมถึงขนมหวาน ที่รับรองได้ว่าใครได้ลิ้มลองก็ต้องติดใจจนอยากจะกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน

 Italian  Appetizer & Welcome Drink 

เมื่อเราเข้ามานั่งในร้าน สิ่งแรกที่เราจะได้รับก็คือ ขนมปังปังกรอบพร้อมซอสสูตรเฉพาะน้ำเข้าจากต่างประเทศ และ Butterfly tea หรือ น้ำผึ้งมะนาวผสมดอกอัญชัญ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ รสชาติกำลังดี ซึ่งทั้งสองเมนูนี้ทางร้านบริการฟรีให้กับลูกค้าทุกท่านที่เข้ามารับประทานในร้าน

ในส่วนของเมนูแพลงค์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านมีชื่อว่า “อัลทิเมท แพลงค์” (ราคา 1,580 บาท) ซึ่งเป็นแอพพิไทเซอร์ที่เหมาะสำหรับแบ่งกันทาน 4-6 คน มีแรงบันดาลใจมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นตัวอย่างของความพิถีพิถันในการคัดสรรอาหารที่เพอร์เฟค แพลงค์หรือถาดไม้จะถูกเสิร์ฟพร้อมด้วยเนื้อเคียวมีทคุณภาพ ผักสดต่าง ๆ ตามฤดูกาล ปาร์เต้ตับไก่ มิวสิคเบรดที่เสิรฟ์พร้อมชีส อิตาเลียนนาโช่ มินิมอซซาเรลล่า โอลีฟ และเรนโบว์สลอว์ ทานคู่กับซอสสูตรเฉพาะสามารถแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี ลูกเล่นของเมนูนี้ก็คือการเสิร์ฟจานแพลงค์บนกระป๋องซอสมะเขือเทศตามธรรมเนียมของชาวอิตาเลี่ยน

เมนูถัดมามีชื่อว่า “มินิ บรูสเก็ตต้า ซีเล็คชั่น” (ราคา 280 บาท) สำหรับผู้ที่หลังรักอาหารอิตาเลียนสไตล์คลาสสิค ที่มีทั้งมะเขือเทศ ซิลกี้ปาร์เต้ เนื้อปู และอะโวคาโด เหมาะสำหรับเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย หรือจะเป็นเครื่องเคียงสำหรับอาหารหลักก็ถือว่าลงตัวเช่นกัน

 Homemade  Pasta & Pizza 

อีกหนึ่งจุดเด่นของร้าน เจมีส์ อิตาเลียน ก็คือ เส้นพาสต้าแบบโฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกวัน โดยมีการผสมผสานระหว่างเมนูคลาสสิคเข้ากับเมนูใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเช่น  “พาพาร์เดลเล่มีทบอล” (ราคา 380 บาท) เป็นพาสต้าเส้นแปลกตาเสิร์ฟพร้อมซอสมีทบอล (หมู) ซึ่งเส้นลักษณะนี้ทางร้านบอกว่าจะทำให้ดูดซึมซอสและเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้ดีกว่าเส้นทั่ว ๆ ไปทำให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร และสำหรับคนที่ในรสชาติพิซซ่าสดใหม่ ต้องห้ามพลาด “เทอร์โบชาร์จมาการิต้าพิซซ่า” (ราคา 320 บาท) เป็นการนำพิซซ่าสไตล์คลาสสิกมานำเสนอใหม่ซึ่งประกอบด้วยมะเขือเทศ เบซิล มอสซาเรลล่า และพาร์เมซานชีส

 

 Main Course  & Side Dish 

อาหารจานหลักสูตรต้นตำรับจากอิตาเลียนอย่าง Grilled Pork Chop (620 บาท) เนื้อหมูพอร์คช็อปนุ่ม ๆ ที่ทางร้านบอกว่าเป็นหมูที่ถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ดีจึงส่งผลให้รสชาติออกมากลมกล่อม และ Lamb Chop Scottadito (760 บาท) หรือสเต๊กขาแกะ ซึ่งต้องขอชมเลยว่าทางร้านดูแลวัตถุดิบและปรุงได้อย่างมีคุณภาพเพราะไม่มีกลิ่นสาปมารบกวนบรรยากาศเลย

ทานพร้อมกับ “คลาสสิคซุปเปอร์ฟู้ด” (ราคา 360 บาท) ที่สามารถสั่งเป็นทั้งอาหารจานหลักหรือในไซส์ใหญ่ขึ้นเพื่อแชร์ร่วมกันก็ได้ โดยในสลัดจะรวบรวมไว้ทั้งผักสดต่าง ๆ อะโวคาโด้ ธัญพืช และเดรสซิ่งสลัดรสชาติกำลังดี ถือว่าอร่อยและดีต่อสุขภาพมาก ๆ ใครไม่ทานเนื้อสัตว์ก็สามารถทานได้

 Italian Cocktail  & Mocktail 

สำหรับผู้ที่รักในเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ ซึ่งทางร้านมีเครื่องดื่มให้บริการมากกว่า 20 รายการตั้งแต่น้ำผลไม้ ม็อกเทลหรือค็อกเทล เบียร์ชั้นดี ไวน์แดงและไวน์ขาวส่งตรงจากต่างประเทศ โดยเครื่องดื่มที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ Jamie’s Mojito หอมกลิ่นมะนาว รสชาติกำลังดี เรียกได้ว่ามาแล้วต้องห้ามพลาดที่จะสั่ง

 Italian  Dessert 

ในด้านของหวานก็ทำได้ดีไม่แพ้อาหารจานหลัก โดยเฉพาะ Amalfi Lemon Meringe Cheesecake (240 บาท) ชีสเค้กรสเลม่อนจากเมืองอามาลฟี ของประเทศอิตาลี ท็อปด้วยเมอแรงก์ไข่ขาวเนื้อเนียนกับซอสรสชาตินุ่ม ถือเป็นการส่งท้ายมืออาหารได้ดีทีเดียว

สนใจสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่

ร้าน เจมีส์ อิตาเลียน ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่
(เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 22.00 น.)
Website : www.jamiesitalian.co.th
Facebook : Jamie’s Italian Bangkok
Instagram : @jamiesitalianbkk
เบอร์โทรศัพท์ : 02-255-5222


บทความนี้เรียบเรียงโดยทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags
waritto

it's not too late to MOVE forward.

  • 1