การมีเพศสัมพันธ์หรือร่วมรักกันเป็นหนึ่งในความสุขของคู่รักทุกคู่ แต่ถ้าหากว่ามันดันเกิดปัญหาขึ้นมาระหว่างโล้สำเภาหรือร่วมรักกัน มันอาจจะกลายเป็นฝันร้ายไปเลยก็ได้ และอาจสร้างความฝังใจให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไว้ในจิตใจจากความอับอายที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ สุดท้ายชีวิตคู่ก็อาจจะไม่สวยอย่างที่คิด ดังนั้นคู่รักจึงควรใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อร่วมกันช่วยแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เหมือนเหตุการณ์ “จิ๋มล็อค” ที่ MOVER ขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ต้องรู้ แต่ผู้ชายก็ต้องศึกษาและเข้าใจปัญหาเหล่านี้ไว้ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเกิดแล้วไม่รู้สาเหตุ ปลายทางอาจจบไม่สวยก็เป็นได้
สิ่งนี้คืออะไร? แล้วทำไมมันถึงล็อค?
สาเหตุหลัก ๆ ของอวัยวะเพศหญิงล็อคคือการที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีความรุนแรงเกินไป จนเกิดอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อที่อุ้งเชิงกรานผู้หญิงเกิดการหดเกร็งอย่างรุนแรงโดยกะทันหันในขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้อวัยวะเพศของฝ่ายชายไม่สามารถเข้าหรือออกได้ อาจจะทำให้อวัยวะเพศชายติดอยู่ข้างใน บางเคสถึงกับต้องไปโรงพยาบาลกันทั้งอย่างนั้นเลยก็มี
ภาวะจิ๋มล็อคหรือมีชื่อทางการแพทย์ว่า “Vaginismus” เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอด มีการหดรัดตัวโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาจุดซ่อนเร้นล็อคตัวจนไม่สามารถปล่อยให้น้องชายผ่านออกมาได้อย่างที่เคยเป็นข่าวไป แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่ปัญหา “การล็อคไม่ให้ออก” เพียงอย่างเดียวเพราะมันยังมีกรณีที่ “ล็อคไม่ให้เข้า” ด้วยก็มีเช่นกัน
โดยภาวะนี้อาจจะเป็นอีกภาวะหนึ่งที่ทำให้เป็นสาเหตุของการมีลูกยาก สาเหตุก็มาจากการที่ฝ่ายชายนั้นไม่สามารถที่จะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงที่หดเกร็งนั้นได้ เลยไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนคนอื่น ถ้าผู้ชายอย่างเราไม่เข้าใจในเรื่องพวกนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างความสัมพันธ์ขึ้นมาได้ โดยสาเหตุอาจจะมาจากสภาพจิตใจของฝ่ายหญิงที่ไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเรื่องพวกนี้มาก่อนอย่าง เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ผิดหรืออาจจะคิดว่าตัวเองมีช่องคลอดที่เล็ก ซึ่งจะส่งผลให้ช่องคลอดหดเกร็งบริเวณรอบ ๆ และไม่สามารถควบคุมได้ อาจจะลองปรับทัศนคติกัน หรือคุยกันก่อนให้เกิดความสบายใจที่สุด ไม่งั้นอาจลองปรึกษาจิตแพทย์ให้เข้ามาช่วยตรงนี้
แต่ถ้าหากจิตใจพร้อมแล้วมันก็ยังมีสาเหตุอีกสาเหตุหนึ่งของภาวะนี้ก็คือ การที่สรีระร่างกายยังไม่พร้อมอย่าง การที่เยื่อพรหมจรรย์ของเพศหญิงยังไม่เปิด หรือการมีปากช่องคลอดที่แคบมาก เนื้อบริเวณของฝีถูกเย็บหนาและแข็งเกินไป จึงทำให้ฝ่ายชายไม่สามารถร่วมเพศด้วยได้ ซึ่งถ้าหากฝ่ายชายยังฝืนที่จะร่วมเพศแล้วอาจจะทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บปวด และไม่อยากที่จะมีเพศสัมพันธ์อีกต่อไป
ซึ่งการบำบัดนั้นควรที่จะเริ่มพูดคุยหรือปรึกษากันให้ดีก่อน ฝ่ายหญิงควรเปิดใจบอกปัญหาทางจิตใจที่มีแก่ฝ่ายชาย และ อาจจะเริ่มจากการฝึกขมิบช่องคลอดให้รู้ถึงการหดและคลายตัวของช่องคลอด เพื่อให้สามารถควบคุมกล้ามเนื้อบริเวณนี้ได้ หรือปรึกษาจิตแพทย์ร่วมด้วยก็เป็นทางออกที่ดี
หากปากช่องคลอดแคบหรือฝีเย็บหนามาก ให้ลองฝึกขยายปากช่องคลอดด้วยตัวเองหรือการให้ฝ่ายชายช่วย เพราะฝ่ายชายนั้นจะมองเห็นได้ชัดกว่า อีกทั้งยังทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้น และรู้ว่าเมื่อไหร่แฟนตนถึงจะพร้อมมีเพศสัมพันธ์ได้จริง ๆ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ฝ่ายหญิงสบายใจกว่า เริ่มต้นโดยการใช้วัสดุชิ้นเล็ก ๆ สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดโดยที่ไม่เจ็บก่อนเช่นนิ้วมือตนเองหรือของสามี ก็เพื่อถ่างขยายปากช่องคลอดเป็นประจำทุกวัน
แนะนำว่าควรรักษาความสะอาดร่วมกับใช้เจลหล่อลื่นด้วยทุกครั้งเพื่อง่ายต่อการสอดใส่และไม่เจ็บ จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มขนาดเทียนไขให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะแรกอาจจะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่เพิ่มขนาดของเทียนไข แต่นานเข้าจะรู้สึกเคยชินมากขึ้นเองครับ ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป อาจใช้เวลานาน 4-8 เดือน จนขยายขนาดใกล้เคียงกับขนาดของอวัยวะเพศสามี หลังจากนั้นอาจจะทดลองมีเพศสัมพันธ์เหมือนปกติ โดยควรให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ควบคุมการสอดใส่ด้วยตนเอง เพราะจะรู้จังหวะช่วงกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานคลายตัวได้ดีที่สุดและไม่เจ็บ แต่ในกรณีที่มีปัญหาด้านสรีระรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดรักษา เช่น การผ่าตัดเล็กเพื่อเปิดเยื่อพรมจรรย์หรือเพื่อตัดฝีเย็บขยายปากช่องคลอด เป็นต้นครับ สิ่งสำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ฝ่ายชายต้องพยายามเข้าใจถึงความผิดปกติของฝ่ายหญิง ใจเย็น ๆ รู้จักให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โอกาสที่จะกลับไปมีเพศสัมพันธ์กันได้ปกติเหมือนคู่อื่น ๆ ก็จะสูงขึ้นครับ
ส่วนการที่มีเพศสัมพันธ์กันแล้วแต่เจ้าน้องชายดันออกมาไม่ได้นั้นมีสาเหตุมาจากอะไร?
ภาวะนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าน้องน้อย(?) ติดหนึบอยู่ภายในช่องคลอดขณะกำลังมีเซ็กส์ จึงทำให้ไม่สามารถดึงออกจากช่องคลอดฝ่ายหญิงได้ ทางการแพทย์เรียกเหตุการณ์เช่นนี้ว่า “Penis captivus” ยังไม่มีข้อมูลรายงานว่าพบบ่อยแค่ไหน แต่ถือว่าพบได้น้อยมาก ๆ หรือแทบไม่เจอเลยก็ว่าได้ (อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งแหละที่ยังไม่เคยพบคนไข้แบบนี้) ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากภาวะ Vaginismus หรือ จิ๋มล็อค อย่างที่เราเรียกเล่น ๆ กัน ซึ่งมักจะมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้มากขึ้นก็คือ
โดยอาการหดเกร็งนั้นมักจะเกิดจากความตื่นเต้นหรือความเครียดที่ส่งผลต่อการหดเกร็งของอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในคืนวันแต่งงานที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีเพศสัมพันธ์กันเป็นครั้งแรกหรือการร่วมรักกันในนำ้ โดยนำ้นั้นจะไปล้างเอาสารหล่อลื่นตามธรรมชาติออกไปซึ่งทำให้อวัยวะเพศเกิดอาการเกร็งได้ และอาจจะเกิดได้จากอวัยวะเพศของผู้ชายที่ฟิตพอดีกับอวัยวะเพศหญิงจนเกินไป
โดยเรื่องนี้เคยเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งที่คู่รักชาวอิตาลีไปร่วมรักพิเรนทร์ในนำ้ทะเลแล้วดันเกิดอาการนี้ขึ้น ทำให้ชาวบ้านแถบนั้นต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งกว่าจะคลายสภาพของทั้งสองฝ่ายออกจากกันได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร ก็เลยกลายเป็นกระแส “จิ๋มล็อค”อยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหากมันเกิดขึ้นกับเราจะต้องทำอย่างไรดี หากเกิดอาการ “จิ๋มล็อค”ขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ควรทำอย่างไร?