สไตล์แต่งตัวแบบ Gentleman เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ชายยุคใหม่ทั่วโลก โดยใช้คีย์ไอเท็มง่าย ๆ อย่าง “ชุดสูท” เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอะไรที่ทุกคนน่าจะมีติดบ้านกันอยู่แล้ว ที่สำคัญคือสามารถใส่ไปได้ทั้งงานแต่งงาน งานสังสรรค์ หรืองานที่ต้องการความเป็นทางการ แต่นอกจากจะเอาไว้ใส่ออกงานแล้ว ชุดสูทเหล่านี้ยังสามารถนำมาใส่ในวันธรรมดาได้อีกด้วย ดังนั้นการลงทุนกับสูทสักตัวจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างคุ้มค่า แต่ในวันนี้ MOVER จะไม่ได้มาพูดถึงแค่ตัวชุดสูทเท่านั้น แต่ยังจะรวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่จะทำให้คุณเป็น “REAL GENTLEMAN” อย่างแท้จริง
การตัดสูทนั้นมีอยู่ 2 แบบคือ “Bespoke” หรือการตัดแบบเฉพาะตัวผู้ใส่ และ “Ready to Wear” คือการตัดแบบสำเร็จรูปไว้แล้วสามารถซื้อแล้วใส่ได้ทันที
#อุปกรณ์ของชุดสูท
เริ่มต้นกันที่ กั๊กสูท เครื่องแต่งกายเสริมหล่อที่ช่วยให้ผู้ชายดูดีขึ้นได้แบบที่คุณคาดไม่ถึง สิ่งนี้สามารถสร้างลุคได้หลากหลายแนวและไม่น่าเบื่อ ขึ้นอยู่กับวัสดุ เท็กเจอร์ ดีไซน์ และสีของกั๊กที่คุณเลือกมา วิธีแมตช์ให้เข้ากับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นๆ ก็มีเทคนิคง่ายๆ เช่น สวมเสื้อกั๊กสีเข้มทับเสื้อเชิ้ตสีอ่อนด้านใน แล้วพับแขนเสื้อขึ้นมา จะพับขึ้นมามากหรือน้อยก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ถัดมาคือเนคไทและหูกระต่าย ทั้งสองชิ้นนี้ก็เป็นอีกไอเท็มที่จะมีเพิ่มก็ไม่ว่ากัน ขอให้ดูว่างานหรือสถานที่ที่คุณจะไปนั้นจำเป็นต้องใส่เพื่อให้ดูเรียบร้อยหรือไม่ แต่ขอแค่ต้องเลือกสีที่ดูเข้ากันและไม่แย่งกันเด่นเท่านั้นเอง ซึ่งเราจะมาเล่าแบบละเอียดในส่วนถัดไปนี้
#1 | Necktie
หากชุดสูทที่คุณมีนั้นดูเรียบง่ายไม่โดดเด่น การหาเนกไทที่มีลวดลายหรือแพตเทิร์นเท่ๆ สักเส้นมาเสริมทัพก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี การเลือกเนคไทให้ถูกต้อง เนคไทของคุณควรเข้มกว่าเสื้อเชิ้ตของคุณ ที่จริงมันก็ไม่ใช่กฎตายตัว แต่เป็นข้อแนะนำคือการที่ผูกเนคไทมีสีเข้มจะสามารถเป็นจุดเด่นแนวตั้งตรงและดึงสายตาให้คนมองมาที่บริเวณใบหน้าคุณและเกิดเป็นภาพลวงตาว่าคุณดูตัวสูงและสง่าขึ้นได้ อย่างไรก็ดีหากคุณเชี่ยวชาญมากพอคุณอาจจะลองอะไรใหม่ด้วยการเลือกผูกไทสีอ่อน แต่นั่นหมายถึงคุณต้องเชี่ยวชาญจริงๆ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะพลาดก็เป็นได้
เลือกลายเนคไทที่ไม่เสี่ยง : ถ้าหากคุณไม่มั่นใจ ควรเลือกเนคไทแบบไม่มีลายและมีสีธรรมดาไม่ฉูดฉาด แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณใส่เนคไทลายหรือสีเรียบๆจะออกมาน่าเบื่อ เพราะก็มีดารา นักร้อง นักแสดงหลายคนที่ผูกไทแบบเรียบๆอย่าพยายามเลือกเสื้อเชิ้ตหรือสูทที่มีลายแปลกๆ: มันจะทำให้คุณหาเนคไทที่เข้ากันได้ยากมาก คุณควรเลือกเสื้อเชิ้ตลายเรียบๆหรือถ้าหากจะต้องมีลายก็ควรจะเป็นลายที่มีความซับซ้อนน้อย เช่นลายเส้นตรงถี่ๆบางๆ เป็นต้น ทั้งนี้คุณควรจะต้องเลือกใส่ชุดสูทที่เหมาะสมกับเนคไทด้วย
ใช้ความยาวเนคไทให้ถูก: ระยะที่ถูกต้องคือปลายเทคไทจะต้องชนหัวเข็มขัดพอดี หากสั้นไปคุณจะดูอ้วน หากยาวไปคุณจะดูรุ่มร่าม
#2 | Pocket Square
ผ้า Pocket Square คือผ้าผืนเล็กที่เอาไว้ประดับอยู่ตรงกระเป๋าเสื้อสูทของผู้ชาย วิธีการก็คือเราจะพับผ้า Pocket Square เป็นรูปแบบต่างๆ ตามที่เราชอบจากนั้นก็ใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อสูท แต่ไม่ใส่เข้าไปจนหมดนะครับ ต้องปล่อยชายผ้า Pocket Square ให้โผล่พ้นกระเป๋าออกมาพอสมควร เพื่อให้ดูเป็นลูกเล่นให้สูทของคุณและการแต่งกายโดยรวมดูมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากขึ้น
#3 | Bowtie
โบว์ไท คือ เครื่องประดับที่คุณสามารถเลือกใส่แทนเนคไทในวันที่ต้องออกงานสำคัญได้ ซึ่งความพิเศษของโบว์ไทเวลาใส่ถึงแม้จะดูมีความเป็นทางการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณดูแก่ขึ้นเลย กลับให้ลุคที่ดูเป็นมิตรมากขึ้นอีกด้วย โดยเราจะแบ่งโบว์ไทแบบนี้ออกเป็นสองประเภทคือ แบบที่มีสันสดๆ ซึ่งสามารถใส่กับเสื้อเชิ้ตและยีนส์ หลักการง่ายๆ คือ เลือกสีให้เข้ากับขลิบของเสื้อเชิ้ตตัวโปรดของคุณ และที่สำคัญเหนือสิ่งใด เสื้อเชิ้ตควรเป็นสีเรียบๆ ไม่มีลวดลาย ส่วนอีกแบบคือสีโทนมินิมอล ที่จะมีความเหลือบเงาแวววาว เหมาะกับเสื้อเชิ้ตสีเรียบๆ ทึมๆ เช่น สีเทาอ่อน, สีครีม, สีฟ้าอ่อน หรือชมพูซีดๆ ทั้งนี้เพราะสีสว่างเงางามของไทด์ จะเบลนเข้ากับสีทึมๆ ของเชิ้ตได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นโบว์ ไทด์สีเรียบ หรือมีลวดลายไม่หวือหวา สวมใส่กับสูทที่มีลายริ้วเส้นตรง หรือสูทลายสก๊อต
#4 | Tie Bar
เครื่องประดับใช้ตกแต่งบริเวณเนคไท โดยวิธีการหนีบตัวเนคไทเข้ากับเสื้อเชิ้ต นอกจากจะใช้ประดับเพื่อความสวยงามแล้ว ยังใช้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวป้องกันไม่ให้เนคไทขยับเขยื้อนไปตวามการเคลื่อนไหวของร่างกาย สำหรับการจัดวางที่หนีบเนกไท ควรอยู่ที่กระดุมเม็ดที่ 3 และ 4 ของเสื้อ และต้องจัดให้มันตั้งฉากอยู่เสมอ ในเรื่องของสีแนะนำให้เลือกสีเงินที่แสนคลาสสิก เข้ากันได้กับเสื้อเชิ้ตและเนกไทเกือบทุกสี
#5 | Lapel Pin
ปัจจุบันนี้เข็มตกแต่งปกสูทกลายเป็นสิ่งที่ผู้ชายหลายคนนำมายกระดับชุดสูทเรียบๆ ให้ดูสนุกขึ้น ตั้งแต่เข็มที่เป็นดอกไม้หลากสีไปจนถึงลวดลายสัตว์ที่ทำจากโลหะ ช่วยให้คนที่พบเห็นนั้นรับรู้ได้ถึงความพิถีพิถันใส่ใจในการแต่งตัวของคุณ
#6 | Cuff Links
ถัดมาเป็นเป็นแอสเซสซอรี่แต่งตัวอย่างหนึ่ง มีหน้าที่คล้ายกระดุม สำหรับติดปลายแขนเสื้อเชิ้ต เพื่อให้สามารถใส่เสื้อเชิ้ตได้อย่างพอดีตัว เพราะหลายๆครั้งนั้นเสื้อเชิ้ตที่ซื้อมานั้นแขนยาวเกินไป แม้ว่าไซส์จะพอดีตัวแล้วก็ตาม เลยทำให้ดูไม่สมส่วน และต้องพับแขนเสื้อขึ้นมาในที่สุด ผลก็เลยดูดีแบบไม่สุด คัฟลิงค์จึงแก้ปัญหาตรงนี้ได้ แถมยังมีหลากหลายลวดลาย หลากสไตล์ทั้งแบบเรียบ แบบลาย เพียงแค่พับปลายแขนเสื้อตรงส่วนกระดุมเข้ามาหนึ่งทบและกลัดด้วยคัฟลิงค์ แค่นี้ก็ดูดีแบบเพอร์เฟคในเชิ้ตตัวเก่งได้แล้วครับ
#7 | Watch
นาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชายแล้วนั้นไม่ได้เพียงเพื่อใช้เพื่อบอกเวลาเพียงอย่างเดียว เพราะนาฬิกาข้อมือยังเปรียบเสมือนกับเครื่องประดับชิ้นสำคัญของผู้ชายอีกด้วย สำหรับเรื่องราคาเราจะขอข้ามไป เอาเป็นว่าเลือกซื้อกันตามกำลังทรัพย์ของตัวเองกันดีกว่า ส่วนประเภทของนาฬิกาข้อมือที่นิยมใส่คู่กับชุดสูทจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือแบบสายเหล็กซึ่งจะเหมาะที่จะใช้ใส่ในชีวิตประจำวัน หรือใส่ทำงาน เพราะวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรง คงทน และยังช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ และแบบสายหนัง ที่เหมาะสำหรับใส่ออกงานสำคัญ แต่ด้วยความที่เป็นหนังวิธีการดูแลรักษาจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนเพราะหนังแต่ละประเภทก็มีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันออกไปหากคุณอยากได้นาฬิกาข้อมือสายหนังสักเรือน นอกจากความสวยงามความทนทานแน่นอนว่าคุณก็ต้องรู้จักวิธีดูแลด้วยเช่นกัน
#8 | Buttoning Rule
กฎของการติดกระดุมสูทให้ดูดีได้ง่าย ๆ แต่สำคัญ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ เหตุผลที่ทำให้ผู้ชายหลายคนเริ่มหันมาใส่สูทมากขึ้น ก็เพราะว่าสูทคือเครื่องแต่งกายที่สามารถทำให้ดูหล่อและสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้สวมใส่ได้ แต่ยังมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่าการติดกระดุมสูทให้เหมาะกับสูทแต่ละแบบนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
#8.1 | Single Breasted
สูทแบบกระดุมแถวเดียวนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะสามารถใส่ไปในโอกาสสำคัญต่าง ๆ หรือใส่ลำลองได้เช่นกัน โดยสูทประเภทนี้มีด้วยกัน 3 แบบ คือ สูทแบบกระดุมเดียว แบบกระดุม 2 เม็ด และแบบกระดุม 3 เม็ด ซึ่งแต่ละแบบก็มีกฎของการติดกระดุมที่แตกต่างกัน
แบบกระดุมเดียว : ผู้ชายที่ใส่สูทแบบกระดุมเม็ดเดียว ควรติดกระดุมเสมอเมื่อยืนและเดิน ส่วนตอนนั่งจะติดหรือถอดกระดุมออกได้ หากรู้สึกอึดอัด
แบบกระดุม 2 เม็ด : ผู้ชายหลายคนที่ชอบใส่สูทที่มีกระดุม 2 เม็ด มักจะติดกระดุมที่เม็ดบนเม็ดเดียว ซึ่งการติดกระดุมลักษณะนี้จะช่วยให้ลุกนั่งสะดวก โดยที่สูทยังคงเนี้ยบอยู่ แต่สำหรับผู้ชายตัวสูงอาจจะติดกระดุมเม็ดล่างแล้วปล่อยเม็ดบนไว้ เพราะว่าความยาวของสูทจะทำให้ปลายสูทบานจนดูเทอะทะนั่นเอง การติดกระดุมเม็ดล่างจึงเป็นทางออกที่ดีอย่างหนึ่ง
แบบกระดุม 3 เม็ด : สำหรับการใส่สูทแบบที่มีกระดุม 3 เม็ด ควรยึดกระดุมเม็ดกลางเป็นหลัก แล้วปล่อยเม็ดสุดท้ายไว้โดยไม่ต้องติด ส่วนกระดุมเม็ดบนนั้นจะติดหรือไม่ติดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของหนุ่ม ๆ แต่ละคน ทั้งนี้ควรเลี่ยงการติดกระดุมทั้ง 3 เม็ดพร้อมกัน เพราะมันจะทำให้ดูผอมแห้งเกินไปนั่นเอง
#8.2 | Double Breasted
สูทประเภทนี้เหมาะกับการใส่ไปงานที่เป็นทางการ เหมาะกับผู้ชายที่ตัวสูง เพราะมันช่วยให้ดูภูมิฐานขึ้น ซึ่งลักษณะส่วนใหญ่ของสูทประเภทนี้มักจะมีกระดุม 6 เม็ด แต่ใช้งานจริงได้ 4 เม็ด โดยปกติแล้ว คนที่ใส่สูทประเภทนี้ มักติดกระดุมครบทั้ง 4 เม็ด หรืออาจจะปล่อยกระดุมเม็ดล่างไว้หนึ่งเม็ด ก็จะทำให้ดูเท่ไปอีกแบบ
อย่างที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า เสื้อสูทถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องแต่งกายที่สามารถใส่ได้กับทุกโอกาส ไม่ขึ้นกับว่าต้องใส่เพื่อความเนี้ยบหรืองานทางการเท่านั้น หากแต่เรารู้จักการมิกซ์ แอนด์ แมตช์ให้กับเครื่องแต่งกายในแบบต่างๆ สูทก็เป็นอีกไอเท็มน่าสนใจที่ผู้ชายอย่างเราควรจะมีติดตู้เสื้อผ้าไว้อย่างน้อยหนึ่งตัว