ทำความรู้จัก “GENDER NEUTRAL STYLE” เทรนด์การแต่งตัวยุคใหม่ที่ไม่มีเรื่อง “เพศ” มาขวางกั้น

Gender Neutral Style คือการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบ Gender Neutral หรือเสื้อผ้าที่ไม่ระบุเพศ โดยเสื้อผ้าเหล่านี้ จะไม่มีลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นของเพศใด แต่จะเป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงใส่ก็ได้ ผู้ชายใส่ก็ดี เป็นการออกจากกรอบของการสวมใส่เสื้อผ้าแบบเดิมๆ

ก่อนอื่น MOVER ขอพามาทำความเข้าใจความหมายของคำว่า Gender Neutral ว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสวมใส่เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของเรา จนกลายมาเป็น Gender Neutral Style ได้อย่างไรกัน

Gender Neutral

คำว่า Gender neutral หมายถึง สภาวะไร้เพศ ความเป็นกลางทางเพศ การไม่ระบุเพศ ซึ่งแต่ก่อนคนจะต้องระบุว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิงสิ่งเหล่านี้ถูกกำหนดโดยสังคม ภาษา และวัฒนธรรม ขณะที่ในความเป็นจริงอาจไม่ง่ายที่จะแยกคนลงกล่องเพียงสองกล่อง เราจึงได้เห็นความหลากหลายทางเพศในด้านต่างๆ มากขึ้น และเกิดการฉุกคิดตั้งคำถามถึงคำว่า เพศ ในมิติใหม่ๆ ว่าแท้จริงแล้วเพศคืออะไร อะไรเป็นตัวกำหนดความเป็นเพศของเรากันแน่ จนนำไปสู่แนวคิดใหม่ๆ นั่นคือการไม่ระบุเพศ ทำให้เห็นว่าสถาบันทางสังคม ภาษา และวัฒนธรรม ไม่อาจเป็นตัวสร้างหรือกำหนดบทบาททางเพศของแต่ละคนได้อีกต่อไป ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนในปัจจุบันมีความเป็นปัจเจก รวมทั้งเคารพในความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และยังเป็นเรื่องดี เพราะจะไม่เกิดการเลือกปฏิบัติจากความคิดที่ล้าหลังว่า เพศใดมีบทบาททางสังคมมากกว่ากัน

JW ANDERSON FOR LOEWE

แม้แต่เรื่องของสีที่หลายคนยังมองว่า “สีชมพูคือสีของผู้หญิง” ในขณะที่ “สีน้ำเงินคือสีของผู้ชาย” สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งที่สังคมได้วางกรอบแคบๆ ไว้เท่านั้น เพียงเพราะว่าสีชมพูอ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิง ส่วนสีน้ำเงินก็ดูสุขุมนุ่มลึกเหมือนกับผู้ชาย ทั้งนี้เรื่องของสี เรื่องของสไตล์เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจของแต่ละคนมากกว่า เช่น การไปเลือกซื้อเสื้อผ้าในช็อปต่างๆ เราต้องเลือกตามที่มีป้ายแปะว่า Men หรือ Women แล้วเรายังต้องเลือกอีกว่าสีไหนที่เป็นผู้ชาย หรือสีไหนที่ดูเป็นผู้หญิง ทำไมเราต้องเลือกด้วย แค่ซื้อเสื้อผ้าที่เราอยากจะใส่ไม่ได้หรือ? ซึ่งบางทีเราก็ไม่ต้องการให้ใครมาจัดแจง หรือจำแนกแยกแยะว่านี่ฉันเป็นเพศอะไร หรือแต่งตัวแบบไหน ซึ่งสำหรับคนเจน Z มองว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปในการมาประทับตราว่าคนไหนเป็นเพศอะไร

#แฟชั่นไม่มีแบ่งเพศ

การแต่งกายเป็นเรื่องของแฟชั่น และแฟชั่นมีความลื่นไหลไปมาระหว่างความเป็นผู้ชายและความเป็นผู้หญิง ในท้ายที่สุดความลื่นไหลก็นำไปสู่การเบลอของเส้นที่ขีดกั้นแบ่งแยกระหว่างความเป็นเพศไป จึงมีเสื้อผ้าแนวใหม่ สไตล์ใหม่ ที่นำเอาทั้งของผู้หญิงและผู้ชายมาผสมรวมกัน เป็นสไตล์เสื้อผ้าที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองเพศ เสื้อผ้าที่ไม่ได้แบ่งแยกหรือบ่งบอกว่าเป็นเพศใด เป็นเสื้อผ้าที่ผู้ชายและผู้หญิงใส่ได้อย่างเท่าเทียม

Photo: CALLED P. CASUAL WEAR

Gender neutral style ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นสมัยใหม่ และในกลุ่มที่เป็น Trendsetters ที่ต้องการใช้แฟชั่นเป็นตัวแทนสื่อสารถึงความรู้สึกนึกนึกคิด รวมทั้งความสรรค์สร้างของตนเองออกมาให้เห็นว่า พวกเขาพร้อมที่จะหลุดออกจากกรอบความคิดเดิมๆ และแสวงหานิยามใหม่ที่ไม่ได้ถูกยึดโยงกับเรื่องเพศสภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่สนุกและท้าทายสำหรับพวกเขา

Photo: Andrew Murphy

Photo: HEIDI’S SECRET by TIMMYY

#แบรนด์แฟชั่นกับจุดยืนทางเพศ

เราจะเห็นได้ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์ดังหลากหลาย ได้ออกคอลเลคชั่นที่มีความเป็น gender neutral อย่างเช่น ZARA ที่ออก  Ungendered collection  ส่วน H&M ก็ตามมาด้วย H&M’s unisex collection ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นยุคนี้มากขึ้น ซึ่งพวกเขามองว่า Gender Neutral เป็นเรื่องสามัญทั่วไปเหมือนกับเสื้อผ้าประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด และยิ่งไปกว่านั้น คือ ร็อบ สมิธ (Rob Smith) ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นมานานกว่า 30 ปี ได้เปิดร้านเสื้อผ้าใจกลางนิวยอร์กขึ้นมาอย่าง ฟลูอิด โปรเจคท์ (Phluid Project) โดยมีจุดเด่น คือเป็นเสื้อผ้าแบบ gender neutral ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนเรื่องเพศ เรื่องของไลฟ์สไตล์มันมีความลื่นไหล และมันคือ Movement ที่จะต้องทำให้เกิดการยอมรับ เปิดกว้าง และมีความเสมอภาคซึ่งกันและกัน

H&M’s unisex denim collection

Founder of The Phluid Project Rob Smith Photo: Ben Gabbe/Getty Images

Photo: The Phluid Project

โลกของแฟชั่นจะเป็นอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ คือ หาเสื้อผ้าที่ใช่ เหมาะกับตัวเรา และไม่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก แล้วออกมาเจิดจรัสบนรันเวย์ที่ทุกคนสามารถเลือกที่จะเดิน เลือกที่จะแสดงออกมาได้อย่างภาคภูมิใจ