คอนติเนนทอล ไทร์ส ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลกจากเยอรมนีเปิดตัวยาง Continental Tyres MaxContact™ MC6 รุ่นใหม่ อีกหนึ่งเสาหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์เจนเนอเรชั่น 6 (Generation 6) ที่ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา ยางรถยนต์ MaxContact™ MC6 ไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่มาแทนที่แม็กซ์คอนแท็ค เอ็มซี5 เท่านั้น หากยังได้รับการพัฒนาให้เป็นยางที่มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น แม็กซ์คอนแท็ค เอ็มซี6 พร้อมการควบคุมที่เหนือชั้นและการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความท้าทาย Mover เราก็ได้ไปร่วม Test Drive ในครั้งนี้มาด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าต่อให้คุณไม่ได้ใช้ Super Car แต่ประสิทธิภาพของยางก็มีผลต่อการขับขี่ไม่ว่าคุณจะใช้รถรุ่นใด
การเปิดตัวยาง MaxContact™ MC6 แสดงถึงความมุ่งมั่นของคอนติเนนทอล ไทร์สในการแสวงหานวัตกรรมด้วยการสร้างสรรค์เทคโนโลยียางรถยนต์อย่างต่อเนื่องที่ไม่เพียงส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีการขับขี่ที่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังยกระดับความเพลิดเพลินและความมั่นใจในการขับขี่ ยาง MaxContact™ MC6 ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการควบคุมบนพื้นเปียกและแห้ง การเบรคบนพื้นเปียก และประสิทธิภาพในระยะยาวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ยางรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิด “When MAX Performance Counts” ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อทุกจินตนาการของผู้ขับขี่ที่มองหาความ
- แม็กซ์คอนแท็ค เอ็มซี 6 มอบเสถียรภาพการขับขี่ที่มั่นคง ความปลอดภัยสูงสุด และการยึดเกาะถนนที่เป็นเลิศ พร้อมการควบคุมที่เหนือชั้นและการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความท้าทาย
- ถ่ายทอดเทคโนโลยีเยอรมันที่ก้าวล้ำหน้าที่สุดได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อสมรรถนะขั้นสูง และคุณภาพระดับพรีเมียม
- การเปิดตัวแม็กซ์คอนแท็ค เอ็มซี6 คือก้าวสำคัญสู่กลยุทธ์ “วิชั่น 2025” เพื่อการเติบโตระยะยาวของคอนติเนนทอล ไทร์สที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
“หากมองตลาดระดับโลก ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ก้าวขึ้นเป็นพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตของคอนติเนนทอล ไทร์ส การเปิดตัวยางMaxContact™ MC6 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่จะลงทุนในภูมิภาคที่มีความสำคัญนี้อย่างต่อเนื่อง” นิโคไล เซตเซอร์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการแผนกยางของคอนติเนนทอล เอจี กล่าว พร้อมกับเสริมว่า “ความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่การนำเสนอผลิตภัณฑ์เจนเนอเรชั่น 6 ที่ล้ำสมัยไปจนถึงการมีศูนย์การผลิตระดับโลกและศูนย์ทดสอบวิจัยและพัฒนาชั้นแนวหน้าช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ “วิชั่น 2025” ในระยะยาวของเรา ซึ่งเรามุ่งปรับปรุงความสมดุลของฐานการผลิตยางรถยนต์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง”
“หลังจากความสำเร็จในการเปิดตัวยางอัลตร้าคอนแท็ค ยูซี 6 (UC6) และยางคอมฟอร์ตคอมแท็ค ซีซี 6 (CC6) เมื่อปีที่แล้ว เรามีความยินดีที่จะได้แนะนำผลิตภัณฑ์เจนเนอเรชั่น 6 อีกหนึ่งรุ่น ยางMaxContact™ MC6 จะกำหนดนิยามใหม่ด้านประสบการณ์ขับขี่ของผู้บริโภคชาวไทยและเอเชียแปซิฟิก ยางรุ่นนี้สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่ครอบคลุมของคอนติเนนทอลและความสามารถของเราในการปูทางสู่แนวคิด “วิชั่น ซีโร่” (Vision Zero) ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยในการขับขี่ที่เหนือกว่า” ฟิลิปป์ ฟอน เฮอร์ชฮีดท์ รองประธานบริหาร ยางทดแทนรถยนต์นั่งและรถบรรทุกน้ำหนักเบา เอเชียแปซิฟิกกล่าว
ทดลอบคุณสมบัติสำคัญของ MaxContact™ MC6
Multifunctional Tread Design ดีไซน์ดอกยางแบบอเนกประสงค์ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม พร้อมกับลดระยะการเบรคบนพื้นเปียกและแห้ง แพทเทิร์นการออกแบบดอกยางช่วยเพิ่มการยึดเกาะให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อความปลอดภัยในทุกสถานการณ์และเพิ่มความเร็วในการเข้าโค้ง ดอกยางแบบอเนกประสงค์ช่วยให้ผู้ขับขี่มีเสถียรภาพการขับขี่ที่มั่นคงสูงสุดและมีระยะทางเบรคสั้นลง โดยได้ทำการทดสอบเปรียบเทียบกับยางรุ่น MC5 พบว่าระยะการเบรคสั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด และรถสามารถหยุดนิ่งได้สนิทในเวลาอันสั้น ไม่ไถลแม้ในสภาพพื้นถนนเปียก
Adaptive Grip Compound เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะพื้นผิวถนนที่เหนือกว่า เนื้อยางแม็กซ์คอมแท็ค เอ็มซี 6 ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและให้ความปลอดภัยสูงสุดด้วยการปรับความยืดหยุ่นตามสภาพพื้นผิวถนนที่หลากหลายได้อย่างสมบูรณ์แบบในระดับนาโนเมตร ในจังหวะที่ต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน คุณสมบัติตัวนี้ทำให้เราควมคุมทิศทางของรถได้ดั่งใจ และทำให้รถไม่แกว่ง หรือสั่น
XtremeForce Construction โครงสร้างเอ็กซ์ตรีมฟอร์ซ ช่วยในเรื่องของการเข้าโค้งที่ยอดเยี่ยม เมื่อผู้ขับขี่ทะยานเข้าโค้งอย่างหนักหน่วงและด้วยความเร็วสูง ความเหนียวแน่นของวัสดุเอ็กซ์ตรีมฟอร์ซช่วยลดการงอตัวของยาง ในการ Test Drive ได้ลองประสิทธิภาพของยางในข้อนี้ด้วยการเข้าโค้งแบบไม่ลดความเร็ว ตัวยางก็ช่วยในการควบคุมทิศทางของรถได้ดี แม้ไม่ได้เชี่ยวชาญการขับขี่ก็ตามโครงสร้างยาง Xtreme-Force ช่วยให้ยาง MC6 มีความแข็งแกร่ง ไม่เสียรูปทรง ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงการตอบสนองจากยางที่ดีกว่ายางทั่วไป ซึ่งโครงสร้างยางทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นมากเกินไป ที่จะลดการตอบสนองในการเข้าโค้งและการบังคับควบคุมในความเร็วสูง ส่วนการใช้ความเร็วต่ำ เทคโนโลยีวัสดุชนิดนี้จะรักษาความยืดหยุ่นเพื่อให้มีการขับขี่ที่นุ่มนวล
Fast Fact
ขนาดของผลิตภัณฑ์
- ความกว้าง 195 – 295
- อัตราส่วนหน้าตัด 30 – 55
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 – 20
- สัญลักษณ์ความเร็ว V/W/Y
การออกแบบลวดลายดอกยางของ Max Content™ MC6 ใช้เทคโนโลยีฟังก์ชั่นการออกแบบ ส่งผลให้ยางมีประสิทธิภาพการขับขี่ที่สูง ซึ่งฟังก์ชั่นต่างๆเหล่านี้ของยาง ช่วยให้ยางรองรับแรงขับเคลื่อนทั้งสี่ประการ ได้แก่ การเร่งความเร็ว การเบรค และการเข้าโค้ง (ABC: Acceleration , Baking , Cornering Left /Right )
- Chevron Grip: ร่องดอกยางรูปตัววีออกแบบเผื่อให้ยางมีพื้นผิวสัมผัสยางมีแรงกดสม่ำเสมอในขณะที่เข้าโค้งส่งผลให้ยางมีการเกาะถนนได้ดีขึ้น มีผลดีต่อการเข้าโค้งและเสถียรภาพของการขับขี่
- Asymmetric Rib Geometry: รูปทรงของดอกยางป้องกันการยืดตัวเมื่อใช้งานอย่างหนักหน่วง เพื่อการเข้าโค้งและการเปลี่ยนทิศทางรถอย่างรุนแรงทำให้ยางตอบสนองการบังคับทิศทางในโค้งได้ดี
- Stabilizer Bars: แถบยางเสริมความแข็งแรงบริเวณร่องดอกจำนวน 50 จุด เพื่อเสริมประสิทธิภาพของยางเมื่อเข้าโค้งและการบังคับควบคุม
- Stable Rib Structure: เพื่อให้ยางมีระยะเบรคบนถนนแห้งและการยึดเกาะถนนที่อยู่ในระดับสูง ดอกยางแนวตรง ยางถูกวิศวกรรมเพื่อป้องกันการบิดตัวของดอกยางจากการส่งผ่านแรงตามแนวเส้นรอบวงยางสู่ผิวถนนอย่างมีประสิทธิภาพ
- Noise Breaker 2.0: ปุ่มตัดคลื่นเสียงที่เคลื่อนผ่านร่องยาง ช่วยให้เสียงรบกวนต่ำลง
โพลิเมอร์สูตรพิเศษของยาง Max Content™ MC6 ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการยางที่มีการยึดเกาะถนนที่ดีเป็นพิเศษ บริษัท คอนทิเนนทอส เป็นผู้ผลิตยางที่มีเทคโนโลยีของส่วนผสมยางที่ยอดเยี่ยม จึงได้มีการคิดค้นสูตรโพลิเมอร์ที่ให้การยึดเกาะสูงสุดในทุกสภาพการใช้งานการยึดเกาะถนนในทุกมิติของเนื้อยาง
- Mechanical Interlocking : เนื้อยางสามารถแทรกตัวเข้าล๊อคกับพื้นผิวหยาบของถนน
- Hysteresis : เกิดจากการบิดตัวของเนื้อยางในระดับไมโคร ส่งผลจาการสัมผัสของยางกับพื้นถนนในขณะขับขี่
- Adhesion : ความเหนียวเกิดจากระดับการยึดเกาะในระดับโมเลกุลตามหลักการ “Vander Waals” ที่ยึดโพลิเมอร์เข้ากับถนนในระดับนาโนเมตร
Xtreme-Force Construction ความแข็งแกร่งของวัสดุที่ทำโครงสร้างยางของ Max Content™ MC6 จะช่วยให้ยางมีเสถียรภาพไม่ย้อยเมื่อเข้าโค้งอย่างรุนแรงสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตในความเร็วสูง ช่วยให้การควบคุมบังคับที่ดี การขับขี่ความเร็วต่ำ โครงสร้างของยางความยืดหยุ่นเพียงพอจะทำให้ได้รับความนุ่มนวลในการใช้งาน
Performance Comparison
- Wet Handing การควบคุมบนถนนเปียก
- Dry Handing การควบคุมบนถนนแห้ง
- Mileage อายุยืน
- Comfort ความนุ่มนวล
- Noise ระดับเสียง
- Wet Braking การเบรคบนถนนเปียก
- Dry Braking การเบรคบนถนนแห้ง
นอกจากคุณภาพรอบด้าน ยาง MaxContact™ MC6 ยังมาพร้อมคุณสมบัติสำคัญคือประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานและเสียงรบกวนต่ำในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยสำหรับล้อขนาด 16 – 19 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 4,066 บาทถึง 10,165 บาทต่อยางหนึ่งเส้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.continental.co.th หรือ www.facebook.com/ContinentalTH
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com