Type to search

Lifestyle Sport & Hobbies

10 นักเตะ น่าจับตามองในศึก ฟุตบอลโลก 2018

Share

ในปี 2018 นี้ก็มีอีกหนึ่งมหกรรมกีฬาระดับโลก นั่นก็คือศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยมีทีมที่ผ่านการคัดเลือกมาถึงรอบสุดท้ายนี้รวม 32 ทีม จากทุกทวีปทั่วโลก โดยในแต่ละทีมนั้นก็มีผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่มากมาย ในวันนี้ทาง Mover ได้รวบรวม 10 นักเตะ ที่ฟอร์มดีคงเส้นคงวาตลอดปีนี้ที่อาจไม่ได้เป็นระดับซูเปอร์สตาร์ตัวพ่อ แต่น่าติดตามผลงานของพวกเค้าในฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะมีใครบ้างนั้นไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ (ขอยกมาแค่ประเทศละหนึ่งคนนะ)

 #1 Christian Eriksen (Denmark) 

นักเตะคนแรกที่เราขอพูดถึงก็คือ คริสเตียน อีริคเซ่น มิดฟิลด์ตัวรุกฝีเท้าเก่งฉกาจจากทีม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และทีมชาติเดนมาร์ก ที่ช่วยให้ทีมของเค้าการันตีไปเล่น UEFA Champion League ฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว พูดได้เลยว่าผลงานของทีมสเปอร์ที่ออกมาดีในปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะผลมาจากฝีเท้าของอีริคเซ่น ด้วยการทำไปถึง 13 แอสซิสต์ กับอีก 14 ประตู จากการลงเล่น 45 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวามาตลอดฤดูกาลนี้รวมถึงหลายๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา และยังช่วยให้ช่วยให้เดนมาร์กผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

ทำให้ยอดแข้งวัย 26 ปี ที่อยู่ในช่วงกำลังพีค มีความน่าจับตามองเป็นอย่างมากในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ และยังมีทีเด็ดนอกจากการจ่ายบอลที่เฉียบคม หรือการทำประตูจากการเล่นโอเพนเพลย์ นั่นก็คือการเตะฟรีคิกที่มีประสิทธิภาพมาก ทั้งการทำประตู รวมไปถึงการเปิดให้เพื่อน หวังผลได้ตลอด ในทัวร์นาเมนต์นี้ เราอาจจะได้เห็นอีริคเซ่น แบกทีมชาติเดนมาร์กเข้าสู่รอบลึกๆ ก็เป็นได้ และจะยิ่งเพิ่มความเนื้อหอมให้สโมสรใหญ่ ตามจีบพ่อหนุ่มรายนี้จริงจังเพิ่มขึ้นอีกจับตาดูเค้าไว้ให้ดีครับ

 #2 Kevin De Bruyne (Belgium) 

นักเตะคนถัดมาคือ เควิน เดอบรอยน์ มิดฟิลด์ตัวรุกจากทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ และทีมชาติเบลเยียม นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากในการทำให้ทีมของเค้าคว้าแชมป์แล้ว ยังลุ้นทำสถิติแต้มรวมสูงสุดตลอดต่อหนึ่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกที่ 100 แต้มด้วย (วันที่เขียนยังไม่แข่งนัดที่ 38 นะ) หลังจากช่วยทำสถิติยิงประตูมากสุดต่อหนึ่งฤดูกาลไปแล้ว รวมไปถึงถ้วยลีกคัพด้วย ภาพรวมฟอร์มปีนี้ของเดอบรอยน์นั้นก็โหดเป็นอย่างมาก ด้วยการทำไปถึง 20 แอสซิสต์ กับอีก 12 ประตู จากการลงเล่น 51 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน)

เดอบรอยน์นั้นเรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่มีฟอร์มที่ดีและพัฒนาขึ้นมาตลอดทุกฤดูกาล ครบเครื่องด้วยการเลี้ยงบอล จ่ายบอล การทำประตู โดยเฉพาะการจ่ายบอลแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูของเค้า ทำให้ในทัวร์นาเมนต์นี้ เราจะน่าจะได้เห็นแข้งวัย 26 ปี รายนี้เฉิดฉายพรสวรรค์ของตนเองไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาติเบลเยียมที่แข็งแกร่งอยู่แล้วเข้าไปสู่รอบลึกๆ หรืออาจไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกก็ได้เลย อย่าพลาดสายตาจากเค้าคนนี้นะครับ

 #3 Marco Asensio (Spain) 

นักเตะอายุน้อยมากพรสวรรค์รายนี้มีนามว่า มาร์โก อเซนซิโอ มิดฟิลด์ตัวรุก/กองหน้าฝั่งซ้าย จากทีมที่กำลังลุ้นแชมป์ยุโรป UEFA Champion League สมัยที่ 3 ติดต่อกันอย่างเรอัล มาดริด และทีมชาติสเปน แม้ผลงานโดยรวมของทีมในลีกจะสวนทางกับยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก แต่ฟอร์มส่วนตัวของนักเตะรายนี้กับสม่ำเสมอคงเส้นคงวาเป็นอย่างมาก โดยมีสถิติในนามสโมสรอยู่ที่ ทำไป 6 แอสซิสต์ กับอีก 11 ประตู จากการลงเล่น 51 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) แม้อาจจะไม่ได้เยอะแยะมากมายแต่ อเซนซิโอ นั้นขึ้นชื่อเรื่องการทำประตู หรือจังหวะสำคัญให้กับทีมได้เสมอ แม้จะไม่ได้เป็นตัวจริงตลอดแต่ก็มีความสำคัญกับทีมทุกครั้งที่ได้ลงสนาม

ถ้าแข้งวัย 22 ปี รายนี้ต่อยอดจากที่ทำได้กับมาดริด มาสู่ทีมชาติสเปน เชื่อได้เลยว่าอเซนซิโอ และเพื่อนร่วมทีมชาติสเปนที่มีดีกรีเคยได้แชมป์โลกกันมาก่อนแล้วเข้าสู่รอบลึกๆ รวมไปถึงอาจจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 กลับไปประดับที่สเปนก็ได้ ใครจะไปรู้ครับ

 #4 Son Heung-min (South Korea) 

ดาวเตะหน้าตี๋ชื่อ ซอง เฮือง-มิน ที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเอเชียประจำปี 2018 สังกัดทีม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ ทีมชาติเกาหลีใต้ รายนี้มีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงอย่างมากในฤดูกาลนี้ โดยเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้สเปอร์การันตีไปเล่น UEFA Champion League ฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว ก็มาจากฝีเท้าของเค้าโดยทำได้ถึง 11 แอสซิสต์ กับอีก 18 ประตู จากการลงเล่น 52 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) ถือว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเจ้าตัวตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับสเปอร์เลยด้วย สกิลพร้อมทั้งการพาบอล จ่ายบอล ทำประตู

การที่ท็อปฟอร์มมีรางวัลการันตีขนาดนี้แล้วจะบอกว่าซองนั้นเป็นนักเตะชาวเอเชียที่เก่งที่สุดก็คงจะไม่เกินจริงไป เพราะฉะนั้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้เราจะได้เห็นแข้งวัย 25 ปี จากแดนโสมขาวคนนี้วาดลวดลายเพลงแข้งให้คนทั้งโลกได้เห็น แล้วอาจมีเซอร์ไพรส์พาเกาหลีใต้ไปได้ไกลในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ได้นะใครจะรู้ จดจำชื่อเค้าไว้ให้ดีครับ ซอง เฮือง-มิน

 #5 Thomas Muller (Germany) 

คนที่ได้ติดตามฟุตบอลโลกมาหลายสมัยคงจะต้องคุ้นเคยชื่อของเค้าคนนี้เป็นอย่างดีกับ โธมัส มุลเลอร์ กองหน้าตัวต่ำ จากทีมบาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจทีมฟุตบอลจากประเทศเยอรมนี และแน่นอนทีมชาติเยอรมนี ฟอร์มการเล่นปีนี้ของ มุลเลอร์อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากแต่ก็มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม โดยได้แชมป์บุนเดสลีกาไปครองเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงลุ้นชิงถ้วยเดเอฟเบโพคาลอีกหนึ่งถ้วยด้วย ฟอร์มโดยรวมคือทำไป 18 แอสซิสต์ กับอีก 15 ประตู จากการลงเล่น 43 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลย (บางนัดเล่นไม่ดีแต่ก็มีประตูบ้าง แอสซิสต์บ้างนะครับ)

มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของแข้งวัย 28 ปีรายนี้คือ มุลเลอร์ผ่านการเล่นฟุตบอลโลกมาแล้วสองครั้ง ทำได้ถึง 6 แอสซิสต์ กับอีก 10 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมากๆ สำหรับการลงเล่นแค่สองครั้ง แล้วทัวร์นาเมนต์นี้ มุลเลอร์ก็อาจจะโชว์พลังแฝงสุดยอดในฟุตบอลโลก 2018 ได้อีกครั้งแล้วนำพาทีมชาติเยอรมนีแชมป์เก่า ไปครองแชมป์อีกสมัยต่อกันก็เป็นได้ครับ

 #6 Mohamed Salah (Egypt) 

ถ้าพูดถึงนักเตะที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ชื่อที่ทุกคนคงจะนึกถึงแน่นอนก็คือเค้าคนนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าฝั่งขวาจากทีมลิเวอร์พูลและประเทศอียิปต์ ด้วยฟอร์มการเล่นในปีนี้ที่เรียกได้ว่าสุดในทุกซอย ท็อปฟอร์มสุดในชีวิต ทำให้เค้าเป็นเครื่องจักรสังหารประตูของทีมหงส์แดงอย่างแท้จริง ที่แทบจะจองรางวัลดาวซัลโวลีกอย่างแน่นอน พาทีมเข้าชิงชนะเลิศลุ้นแชมป์ UEFA Champion League กับเรอัล มาดริดในฤดูกาลนี้ ฝากผลงานไว้ 15 แอสซิสต์ กับอีก 43 ประตู จากการลงเล่น 49 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) เรียกได้ว่ายิงถล่มทลายแบบสุดๆ

ทำให้เชื่อว่าหลายคนเตรียมจับตามองฟอร์มของแข้งวัย 25 ปีรายนี้ ที่เป็นฮีโร่พาอียิปต์กลับมาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในรอบกว่า 28 ปี ว่าจะสามารถกระชาก ลากเลื้อย ยิงประตู แบบที่ทำกับสโมสรมาสู่ทีมชาติได้รึเปล่า ซึ่งถ้าซาลาห์ทำได้คงจะสามารถพาชาติของตนเองที่ไม่ใช่ทีมใหญ่อะไรเข้าสู่รอบตัดเชือกของทัวร์นาเมนต์นี้ได้เลยนะครับทำเป็นเล่นไป

 #7 Paulo Dybala (Argentina) 

ถ้าเราพูดถึงทีมชาติอาร์เจนตินาทุกคนคงจะนึกถึง ลิโอเนล เมสซี่ กันแน่นอน แต่มีนักเตะหนุ่มคนหนึ่งที่ทักษะในการเล่นบอลโดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่เมสซี่ ในทีมชาติเค้าก็คือ เปาโล ดีบาล่า กองหน้าตัวต่ำ จากทีมยูเวนตุส นักเตะร้อยลีลาคนนี้ มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมาตลอดตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับยูเวนตุส แม้ช่วงท้ายฤดูกาลนี้อาจจะฟอร์มหดหายไปบ้าง แต่ยังมีความอันตรายต่อทีมคู่แข่งแน่นอน ผลงานของเค้าถึงตอนนี้คือ 7 แอสซิสต์ กับอีก 26 ประตู จากการลงเล่น 49 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) ดุเดือดมั้ยล่ะครับ ดีบาล่า เป็นนักเตะที่มีทักษะสูง สกิลต่างๆ แพรวพราว สร้างจังหวะ รวมไปถึงทำประตูได้อย่างมากมาย

แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าห่วงสำหรับแข้งวัย 24 ปี รายนี้ที่อาจจะไม่ค่อยได้รับโอกาสในทีมชาติมาก และยังตำแหน่งการเล่นทับกับเมสซี่ แต่เชื่อได้เลยว่าถ้าดีบาล่าได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ เราอาจได้เห็นการปล่อยของจากเค้าก็เป็นได้ ถ้าเค้าสามารถเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมและใช้ศักยภาพตัวเองได้อย่างเต็มที่ อาร์เจนตินาจะน่ากลัวและเข้ารอบลึกๆ หรืออาจจะกวาดแชมป์ที่พลาดไปในรอบชิงคราวก่อนอย่างน่าเสียดายกลับประเทศก็ได้นะครับ

 #8 Harry Kane (England) 

นักเตะที่ฟอร์มสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มเป็นดาวรุ่งจนถึงปัจจุบันที่หลายคนคงไม่คิดว่าจะเกิดในตอนแรกกับ แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเป้าจากทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และประเทศอังกฤษ หนึ่งในนักเตะที่เป็นหัวใจในแนวรุกของสเปอร์ พาทีมการันตีตั๋ว UEFA Champion League ฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว มีคำพูดนึงที่แฟนๆ สเปอร์ พูดกันว่า “ขาด เคน เหมือนขาดใจ” กันเลยทีเดียว ผลงานของกองหน้าเท้า

คมในฤดูกาลนี้ถือว่ารักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เดบิวต์ขึ้นมา ฝากผลงานไว้ที่ 5 แอสซิสต์ กับอีก 39 ประตู จากการลงเล่น 47 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบัน, May 2018) คนโหดกระโดดยิงกันเลยทีเดียว

ถึงแม้จะมีข่าวเรื่องการเคลมประตูออกมาก่อนหน้านี้ทำให้ดูหม่นหมองลงไปเล็กน้อย แต่เชื่อได้เลยว่าบอลโลกหนนี้ เคน ไม่ได้มาเล่นๆ อย่างแน่นอน น่าจะเป็นหนึ่งในตัวความหวังที่จะทำให้ทีมชาติอังกฤษ เข้ารอบลึกๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้ หรือ อาจพาอังกฤษ ไปไกลถึงแชมป์โลกที่รอคอยจะได้อีกครั้งมานานแสนนานก็ได้

 #9 Kylian Mbappé (France) 

ถ้าเราจะพูดถึงดาวรุ่งในโลกฟุตบอลปัจจุบันสักคนคงไม่มีใครไม่กล่าวถึง คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้า จากทีมมหาอำนาจลีกเอิง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และทีมชาติฝรั่งเศส วันเดอร์คิดคนนี้กวาดรางวัลเป็นโปรไฟล์ให้ตัวเองเรียบร้อยทั้งแชมป์ลีกเอิง เฟรนซ์ลีกคัพ และเฟรนซ์คัพ มานอนกอดเรียบร้อยถึงสามรางวัลแล้ว ตัวของเอ็มบัปเป้นั้นก็มีฝีเท้าที่จัดจ้านเกินอายุของตัวเอง ทำไปถึง 16 แอสซิสต์ กับอีก 21 ประตู จากการลงเล่น 45 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) ไม่ธรรรมดาเลยกับนักเตะคนนี้

ค่าตัวตอนย้ายทีมมีมูลค่าสูงถึง 168 ล้านปอนด์ ในตอนย้ายจากโมนาโกมาสู่อ้อมอกปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับฟอร์มของนักเตะวัยเพียง 19 ปี เท่านั้น น่าจับตามองสุดๆ และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของเจ้าตัว ถ้าเอ็มบัปเป้ สามารถนำความสามารถที่ใช้กับสโมสรไปเสริมกำลังให้ทีมชาติได้ บวกกับขุมกำลังที่ทีมชาติฝรั่งเศสมี ทัวร์นาเมนต์นี้ฝรั่งเศสอาจจะเข้ารอบลึกๆ รวมไปถึงคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 มาครองได้ด้วยพลังของนักเตะวันเดอร์คิดคนนี้

 #10 Grabriel Jesus (Brazil) 

และแล้วนักเตะคนสุดท้ายของเรา อีกหนึ่งดาวรุ่งน่าจับตามองของวงการ กาเบรียล เฆซุส กองหน้าตัวเป้ จากทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก และลีกคัพฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้ และทีมชาติบราซิล ศูนย์หน้าฟอร์มจี๊ดจ๊าดคนนี้มีฟอร์มการเล่นที่ดีมีมาตรฐานมาตลอดทั้งฤดูกาล โดยทำไป 5 แอสซิสต์ กับอีก 16 ประตู จากการลงเล่น 41 นัดตลอดฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะเล่นให้สโมสรถึงวันปัจจุบันที่เขียน) อาจจะดูไม่ได้เยอะมากเท่าคนอื่นๆ แต่ดาวเตะคนนี้มีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วย

แต่ทุกครั้งที่กลับมาก็มีฟอร์มที่น่ากลัวเหมือนเดิม ทั้งการไปกับบอล การกระชากลากเลื้อยสไตล์บราซิลเลียน รวมไปถึงจังหวะการทำประตูที่ทำได้ดี หลายคนอาจมองว่าบราซิลเนี่ยต้องเนย์มาร์เท่านั้น แต่อยากให้ลองเปิดใจและจับตาดู เจ้าหนุ่มเฆซุส วัย 21 ปีคนนี้ให้ดีว่ามีของขนาดไหนจะพาทีมชาติบราซิลที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นดีไปถึงรอบลึกๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้ หรือจะพาทีมถึงฝั่งฝันได้แชมป์ฟุตบอลโลกสมใจอยากก็ไม่ใช่เรื่องที่เวอร์เกินจริงนะครับ

นี่ก็เป็นรายชื่อ 10 นักเตะที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครบ้าง ก็ขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ จริงๆ ก็มีนักเตะอีกมากมายที่ฝีเท้าดีแต่ไม่ติดโผของเราในครั้งนี้ แต่สามารถไปรับชมความสามารถของเค้าได้ในฟุตบอลโลกที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน จนถึง 25 กรกฎาคม ดูกันให้จุใจไปเลยกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ 4 ปีมีครั้งนึง ชอบใคร เชียร์ทีมไหนใส่กันให้เต็มที่เลย ขอให้สนุกกับฟุตบอลโลก 2018 ครับ


บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER

mover.in.th@gmail.com
Tags