เดือนแห่งความโศกเศร้าเสียใจของคนไทยทั้งประเทศวนกลับมาครบรอบ ๑ ปีเต็มอีกครั้ง เดือนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เทวดาผู้ทรงธรรม อันเป็นที่ยึดเหนี่ยวของพสกนิกรชาวไทยลาลับกลับสู่สวรรค์ เพื่อทรงพักผ่อน หลังจากที่ท่านทรงงานอย่างหนักตลอดช่วงชีวิต เพื่อคนไทยทุกคน สื่งที่พระองค์ทิ้งไว้ช่างมากมายเหลือเกินจนไม่อาจมีสิ่งใดเทียบเท่า วันนี้จะพาทุกคนไประลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์กันครับ ผ่านภาพยนตร์ความยาวขนาดสั้นต่อไปนี้
๑.
“สัญญาณจากฟ้า VR009”
(พ.ศ. ๒๕๕๗)
สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ เมื่อปีพ.ศ. 2539 ที่จังหวัดราชบุรี ตอนนั้นที่พายุกระหน่ำ น้ำท่วมหนัก การติดต่อสื่อสารยากลำบาก ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า จนกระทั่งมีสัญญาณ ๆ หนึ่งใช้รหัส VR009 ติดต่อมาที่ศูนย์ ให้คำแนะนำถึงการกระจายสัญญาณให้กว้างกว่าเดิม ทำให้การช่วยเหลือเข้าถึงอย่างรวดเร็ว สัญญาณนั้นเป็นสัญญาณจากพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรงตรัสผ่านอุปกรณ์สื่อสารส่วนพระองค์ด้วยตัวพระองค์เอง ทำให้เรารู้ว่าพระองค์คอยเฝ้ามองประชาชนของพระองค์และหาทางแก้ไข้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา พระบารมีในครั้งนั้น ทำให้ปวงชนชาวไทยสามารถผ่านเหตุการณ์อันยากลำบากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มาได้
๒.
“หมอตามรอยในหลวง”
(พ.ศ. ๒๕๕๖)
เล่าถึงเรื่องราวของหมออาสาที่เข้าไปทำหน้าที่ในหมู่บ้านชนบทห่างไกลมาก ๆ เจออุปสรรคต่าง ๆ มากมาย เขาทั้งท้อและเหนื่อย บ่นไม่หยุดตลอดทาง จนกระทั่งทหารนายหนึ่งได้ถามเขาว่า
“รู้มั้ย? มีคนนึงเคยเดินขึ้นมาบนนี้โดยไม่บ่นซักคำ “
คน ๆ นั้นก็คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทำให้เห็นภาพการเดินทางอันยากลำบากของหมอในตอนต้น การเดินทางแบบนั้นทั้งเหนื่อยทั้งท้อแต่พระองค์เดินโดยไม่บ่นอะไรเลยซักคำ พระองค์ไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเองเลย แต่พระองค์ก็มา ทรงยอมเหนื่อยยอมเจ็บเพื่อประชาชนของพระองค์เอง ทำให้เรารู้ว่าพระองค์ทรงงานหนักเพียงไหน
๓.
“สายฝน”
(พ.ศ. ๒๕๕๙)
เรื่องราวของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีแต่ความแห้งแล้ง ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ชาวบ้านต่างพากันเดือดร้อนไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีข่าวว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ จะเสด็จมา สร้างความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งแก่ชาวบ้าน เพราะไม่น่าเชื่อว่าพระองค์จะเสด็จมาที่หมู่บ้านที่ชนบทกันดารขนาดนี้ด้วยตัวพระองค์เอง นอกจากนี้พระองค์ยังนำมาพร้อม ฝนเทียม ประทานแก่ชาวบ้านทำให้หมู่บ้านไม่แห้งแล้งอีกต่อไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณจนหาที่สุดไม่ได้
๔.
“ลุงวินัย”
( พ.ศ. ๒๕๕๙ )
เหตุการณ์ของเรื่องเริ่มต้นตั้งแต่วันที่หัวใจคนไทยทั้งประเทศแตกสลาย ลุงวินัยโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของพระองค์เป็นอย่างมาก แต่จู่ ๆ ก็มีสิ่งดลบันดาลให้ลุงวินัยฉุกคิดได้ว่าไม่ควรมาเสียใจแบบนี้ เพราะคงไม่ใช่สิ่งที่พระองค์จะอยากให้เกิดขึ้นแน่ ๆ ลุงวินัยจึงลุกขึ้นมาทำความดี เก็บขยะ กวาดถนน ลุงได้ให้ก็มีคนให้ตอบ สังคมดี ๆ ก็เกิดขึ้น นี่คงเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านอยากเห็นมากกว่าการที่คนไทยทุกคนมานั่งเศร้าโศกเสียใจในการจากไปของพระองค์เป็นแน่
๕.
“ทองหลังพระ”
(พ.ศ. ๒๕๕๘)
เรื่องราวของผู้หมวดที่เพิ่งย้ายมาประจำใหม่ในแถบพื้นที่ที่มีผู้มีอิทธิพลคุมอยู่ เขาเป็นตำรวจที่เถรตรงและมีอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นแน่วแน่ เพราะยึดมั่นในโอวาทของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานแก่ตำรวจว่า ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม เป็นกลาง ไม่ว่าจะถูกอิทธิพลชั่วร้ายใด ๆ ทั้ง ติดสินบน ขู่ทำร้าย ก็ต้องยึดมั่นในหน้าที่ จากภาพลบของตำรวจในขณะนี้ ยังไงก็เชื่อเหลือเกินว่าตำรวจดี ๆ ที่ยึดการปฏิบัติตามโอวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ยังคงมีอีกมาก
๖.
“นักวิทยาศาสตร์ในแบงก์”
(พ.ศ. ๒๕๕๘ )
เด็กน้อยคนหนึ่งสงสัยว่าใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งเรื่องน้ำที่สุด จึงคิดตามหา โดยมีคำใบ้จากปู่ว่า “คนที่อยู่ในแบงก์” หลังจากที่เด็กน้อยค้นหาคำตอบอยู่นาน ปู่จึงบอกใบ้เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกหลายชิ้นที่สร้างโดยคน ๆ นั้น วันหนึ่งเด็กน้อยก็ค้นพบคำตอบตอนที่แม่ให้สตางค์ไปจ่ายค่าขนม เขาจึงเก็บแบงก์ใบนั้นมาให้ปู่ดูว่าใครเป็นนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่คนนั้น และแน่นอนคน ๆ นั้นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระองค์เป็นนักประดิษฐ์ที่สร้างสิ่งต่าง ๆ มากมายให้คนไทยได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นพระมหากรุณาที่คุณอันล้นพ้น
๗.
“ทวง Reunion“
(พ.ศ. ๒๕๕๗)
เรื่องราวเกิดขึ้นในร้านเหล้าและมีการพนันซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เป็นมุมมืดของสังคม นำแสดงโดย น้อย วงพรู หรือ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ / เดวิด อัศวนนท์ และกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ หรือ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สั้น โครงการสานธรรมที่พ่อทำโดยมูลนิธิไทยพึ่งไทย โดยนำหลัก ทศพิธธรรมราชา มาถ่ายทอดในมุมมองของคนรุ่นใหม่ โดย ทวง กำกับโดย นัฐวุฒิ พูนพิริยะ
๘.
“เรื่องเล่าของในหลวงกับชายถอดเสื้อ”
(พ.ศ. ๒๕๖0 )
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าขณะที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จไปยังชายแดนภาคใต้ ได้พบเจอปัญหาและแก้ไข แต่ในขณะนั้นเองพระองค์ได้พบกับชายคนหนึ่ง พระองค์จึงเรียกมาเพื่อจะสอบถามปัญหาต่าง ๆ แต่ชายคนนั้นตกใจวิ่งหนี เหตุหลังจากนั้นก็มารู้ว่าที่วิ่งหนีก็เป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อจึงกลัวพระองค์จะดุเข้า เป็นเรื่องน่าขบขันเรื่องหนึ่งในขณะที่พระองค์เสด็จไปช่วยชาวบ้าน แต่ที่เราเห็นชัด ๆ ก็คือพระองค์ทรงไม่ถือตัวเลย ไม่ต้องแต่งตัวเรียบร้อย ไม่ต้องมอบกราบ ทรงเข้าใจหัวใจของชาวบ้าน ทรงถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างแท้จริง
๙.
“ลูกกรง”
(พ.ศ. ๒๕๖0 )
เรื่องราวของชายคนหนึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้กลับมาสู่สังคม แต่เขากลับไม่ได้การยอมรับจากสังคมภายนอก จึงคิดที่จะกลับไปเดินในเส้นทางแบบเก่า แต่แล้วเขาก็คิดได้จากการได้ฟังระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทำให้เขาคิดกลับตัวเป็นคนดี ซึ่งเป็นพระบรมราโชวาทที่คนไทยทุกคนควรจะรับฟังและยึดถือปฏิบัติตามความว่า
” ทำดีนั้นทำยาก แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันรู้ตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลังในการสร้างเสริมและสะสมความดี “
ภาพยนตร์สั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ถึงพระองค์เหล่านี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เมื่อเทียบกับพระมหากรุณาธิคุณอันมหาศาลที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ เราทุกคนบอกว่าเรารักท่าน เราเสียใจเหลือเกินในวันที่ท่านจากไป และหวังว่าท่านจะพักผ่อนอย่างสงบ แต่เราได้มองย้อนมาที่ตัวเองแล้วหรือยังว่าเรานั้นทำให้พระองค์ ผู้ที่ห่วงเราและประชาชนทุกคนตลอดมาชั่วลมหายใจ ได้พักผ่อนอย่างสงบแล้วหรือยัง
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com