จังหวะนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Netflix’ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรี่ย์มากมาย ทั้งผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน หนังน่าดูก็เรียกได้ว่ามีหลายสไตล์ และมีเยอะเป็นคลัง ถ้าถามว่าเรื่องไหนน่าดูก็คงต้องใช้เวลาคิดนานแน่ๆ ซึ่งวันนี้ Mover ก็ขอแนะนำ 13 ภาพยนตร์สะท้อนชีวิต ที่ดีจนไม่อยากให้ชาว Netflix พลาด!
#1 The Skeleton Twins
หนังเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดชายหญิงคู่หนึ่งที่มีชีวิตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แฝดน้องชาย “Milo” ผู้ที่แทบจะไม่มีอะไรที่สมหวังเลยในชีวิต แถมยังถูกแฟนทิ้งอีก คิดจะฆ่าตัวตายก็ทำไม่สำเร็จ ในส่วนของแฝดพี่สาว “Maggie” ซึ่งมีทั้งบ้านทั้งครอบครัวที่ดี แต่กลับอยากฆ่าตัวตายเช่นกัน หนังเล่าเรื่องของสองพี่น้องผ่านมุมมองของวิถีชีวิตดราม่า แต่ก็มีมุขตลกเล็กๆ สอดแทรกอยู่ตลอด สุดท้ายแล้วทั้งสองคนจะหาทางออกให้กับชีวิตอย่างไรคงต้องไปหาคำตอบกันใน Netflix แล้วล่ะ
#2 There Will Be Blood
ถ้าจะพูดถึงหนังสักเรื่องใน Netflix ที่มีความหมายถึงความพยายามและการต่อสู้กับศรัทธา เราขอยกให้หนังเรื่องนี้เลย There Will Be Blood เป็นหนังที่ผสมผสานเรื่องศรัทธากับบาปเอาไว้ด้วยกัน เรื่องราวเป็นการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างพื้นที่แหล่งขุดน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งต้องแลกมาด้วยการกระทำความผิดที่ตามมาด้วยบาปในการโกหก หลอกลวง และศรัทธาที่จะทำให้เชื่อว่าที่แห่งนั้นมีบ่อน้ำมันขนาดใหญ่อยู่จริงๆ
#3 Joe
ภาพยนตร์ที่พูดถึงอดีตนักโทษกลับใจที่ชื่อ “โจ” ซึ่งพร้อมจะหันหลังให้กับความผิดในอดีตของตัวเอง จนกระทั่งเขาได้มาอยู่เงียบๆ คนเดียวและรับจ้างทำงานในโรงงานไม้แห่งหนึ่ง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โจได้รู้จักกับ “แกรี่” เด็กหนุ่มวัย 15 ที่มีพ่อไม่เอาไหนแถมยังขอตังค์แกรี่ไปวันๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้โจตั้งใจที่จะประคับประคองแกรี่ให้เติบโตมาเป็นคนที่ดีให้ได้ เพื่อเป็นการไถ่บาปของตัวเองเมื่อครั้งในอดีตอีกด้วย
#4 Tangerine
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เปี่ยมไปด้วยนักแสดงแถวหน้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็ตาม แต่ด้วยบทและการนำเสนอมุมมองของสาวประเภทสอง ทำให้ Tangerine เป็นหนังฟอร์มเล็กที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหาเป็นเรื่องราวของสาวประเภทสองคนหนึ่ง ที่กำลังจะตามไปตบกิ๊กของแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งกิ๊กคนนั้นเป็นผู้หญิงแท้ๆ จุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นหนังที่ถ่ายทำด้วย iPhone 5S ทั้งเรื่องเลย
#5 Adventureland
หนังเบาสมองแต่มีอารมณ์โรแมนติกเล็กๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ “เจมส์” เด็กหนุ่มที่ต้องไปทำงานพิเศษในสวนสนุก โดยหน้าที่ของเขาคือการคุมบูธเล่นเกมส์ต่างๆ แต่แล้วเจมส์ก็ดันไปตกหลุมรักเข้ากับเพื่อนร่วมงานอย่าง “เอ็มส์” สาวหน้าใสที่ทำงานพิเศษที่เดียวกัน สุดท้ายแล้วเจมส์ผู้ผิดหวังกับความรักอยู่เป็นประจำ จะพิชิตใจสาวสวยรายนี้ได้หรือไม่ ต้องติดตาม
#6 Before We Go
หนังรักโรแมนติกอีกเรื่อง โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนแปลกหน้าสองคนที่มีเรื่องราวบางอย่างทำให้ต้องมาใช้เวลาร่วมกันในหนึ่งคืน โดยสิ่งที่จี๊ดกินใจของหนังเรื่องนี้ก็คือ เงื่อนไขในชีวิตที่พระเอกก็ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ และหญิงสาวก็มีแฟนหนุ่มอยู่แล้วเช่นกัน แต่ทว่าความรู้สึกและทัศนคติที่ไปในทิศทางเดียวกันมันทำให้เขาทั้งสองคนไม่อยากจะให้คืนนี้ผ่านไปอีกเลย ต้องบอกเลยว่าตอนจบของหนังเรื่องนี้น่าติดตามมากๆ
#7 Like Crazy
หนังรักที่กล่าวถึงความรักแบบบ้าคลั่ง โดยเรื่องราวเป็นความรักระหว่างหญิงสาวชาวอังกฤษที่มาเรียนในอเมริกา กับชายหนุ่มซึ่งเป็นชาวอเมริกันแท้ๆ เวลาผ่านไปความรักของทั้งคู่ก็เบ่งบานจนไม่สามารถแยกจากกันได้เลย จนกระทั่งวีซ่านักศึกษาของนางเอกสาวของเราหมดอายุลงและทำให้เธอถูกส่งกลับบ้านเกิดโดยถาวร นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนของทั้งคู่ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อนั่นต้องไปติดตามกันเองใน Netflix
#8 Schindler’s List
คนที่ชอบหนังแนวอิงประวัติศาสตร์ ต้องห้ามพลาดเรื่องนี้ Schindler’s List เป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงของการสังหารหมู่ชาวยิวโดยทหารเยอรมัน ซึ่งในการสังหารหมู่ครั้งนี้มีนักธุรกิจชาวโปแลนด์ที่ชื่อ “ออสการ์ ชินด์เลอร์” โดยเขาคนนี้เป็นผู้ที่พยายามช่วยเหลือชาวยิวให้รอดชีวิต ซึ่งความพยายามของเขาในครั้งนี้ก็ส่งผลให้มีชาวยิวรอดชีวิตมากถึง 1,000 คนเลยทีเดียว
#9 The Kite Runner
เรื่องราวของเด็กสองคนที่เป็นเพื่อนกัน แต่ต่างกันด้วยสถานะทางสังคม ระหว่างเด็กที่เกิดมาในครอบครัวร่ำรวยกับเด็กอีกคนที่เป็นลูกของคนรับใช้ในบ้าน ภายใต้สถานการณ์ของสงครามและการกดขี่ทางเชื้อชาติ นำมาซึ่งการผิดใจกันของคนรับใช้กับเจ้านาย มิตรภาพของเด็กสองคนจึงได้ถูกตัดขาดไปในช่วงเวลานั้นเอง แต่เนื้อเรื่องที่ยังเข้มข้นต่อไปก็อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งก็ได้ ต้องติดตาม
#10 The Truman Show
หนังที่นำเอาดาราตลกชื่อดังอย่าง จิม แคร์รี่ย์ มาถ่ายทอดเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ทรูแมน เบอร์แบงค์” ที่ทั้งชีวิตของเขาในแต่ละวันถูกจัดฉากขึ้น เพียงเพื่อให้เป็นตัวละครตัวหนึ่งของรายการเรียลลิตี้ โดยที่คนดูต่างก็ต้องคอยลุ้นเอาว่า สุดท้ายแล้วชายผู้นี้จะรู้หรือไม่ว่าชีวิตที่เขากำลังเผชิญอยู่ เป็นเพียงการถ่ายทำและถูกจัดฉากขึ้นมาเท่านั้น เป็นหนังที่เรียกได้ว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ จิม แคร์รี่ย์ เลยก็ว่าได้
#11 Gran torino
เรื่องราวของทหารผ่านศึกรุ่นคุณปู่รายหนึ่งที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด เข้ากับคนอื่นยาก และไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครแม้แต่คนในครอบครัว เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เนื้อเรื่องก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้ว ถ้าลูกชายของเพื่อนบ้านชาวเอเชียคนหนึ่งไม่ถูกท้าจากกลุ่มวัยรุ่นให้มาขโมยรถยนต์สุดที่รักของคุณปู่รายนี้ซะก่อน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองคนต้องมารู้จัก และใช้ชีวิตร่วมกัน จนพาไปสู่เรื่องราวสุดดุเดือด ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเรื่องอะไรต้องไปติดตามกันต่อใน Gran torino หรือชื่อไทย “คนกร้าว ทะนงโลก”
#12 The Visit
ภาพยนตร์สุดหลอนที่สร้างความระทึกให้กับผู้ชมไม่น้อย กับเรื่องราวของเด็กสองคนที่ถูกส่งให้ไปอยู่กับคุณตาคุณยายในช่วงวันหยุด ซึ่งเด็กๆ ทั้งสองต่างก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของตายาย ที่มักจะมีกฏเหล็กในการห้ามทำนั่นทำนี่อยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่ห้ามเด็กๆ ออกมาจากห้องนอนหลังสามทุ่มครึ่งเป็นอันขาด แต่ก็นั่นแหละครับ เด็กก็คือเด็ก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แน่นอนว่าพวกเขาก็ได้ฝ่าฝืนกฎและต้องพบกับความจริงอันน่าสะพรึง
#13 The Open House
ยังอยู่กันที่เรื่องบ้านสยองกันอีกเรื่อง กับ The Open House เรื่องราวของ 2 แม่ลูก ดีแลนและนาโอมิ ที่หลักหนัีจากเหตุโศกนาฏกรรมไปพัก ณ บ้านพักตากอากาศของญาติ ซึ่งก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เพราะบ้านหลังนี้มีบ้างอย่างที่ไม่ค่อยชอบมาพากลสักเท่าไหร่ ตั้งแต่เพื่อนบ้านที่ทำตัวน่าสงสัย เสียงปริศนาภายในบ้าน ภาพถ่ายสุดหลอน แม้กระทั่งตำรวจก็ดูไม่น่าไว้ใจ เรื่องนี้ได้นักแสดงวัยรุ่นจาก 13 Reasons Why นำแสดง มาไขปริศนาชวนระทึกไปพร้อมๆกับเขาอีกครั้งใน The Open House
ทั้ง 13 เรื่องนี้ เป็นเพียงบางส่วนของหนังดีๆ ที่น่าดูใน Netflix ซึ่งเราเชื่อว่าบางเรื่องคุณอาจจะเคยเห็นผ่านไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจดู จนบางทีอาจลืมไปแล้ว เอาเป็นว่าใครไม่อยากพลาดอีกละก็รีบเปิด Netflix แล้วค้นหาชื่อหนังที่เราแนะนำกันเลย
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นโดย ทีมงาน MOVER
mover.in.th@gmail.com